เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - น้ำมันดิบขยับขึ้นและทองคำพุ่งแรงวานนี้ (6 ต.ค.) ได้ปัจจัยหนุนจากดอลลาร์ที่่อ่อนค่าลง ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบเล็กน้อย นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ที่จะเริ่มเปิดเผยออกมาในช่วงกลางสัปดาห์
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ ปิดที่ 90.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ ปิดที่ 92.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ดอลลาร์แข็งค่าสุดเมื่อเทียบกับยูโรในรอบ 2 ปี และแข็งค่าสุดในรอบ 6 ปี เมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนเมื่อวันศุกร์ (3 ต.ค.) ส่งผลให้ราคาน้ำมันร่วงลงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ในวันจันทร์ (6 ต.ค.) สถานการณ์ผ่อนคลายลงมาเล็กน้อย
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้น้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ในราคาดอลลาร์ถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือเงินสกุลอื่นๆ ส่งผลให้อุปสงค์เพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัวด้วย
ปัจจัยดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงนี้เอง ก็ผลักให้ราคาทองคำวานนี้ (6 ต.ค.) ขยับกลับขึ้นไปเหนือ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 14.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,207.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันจันทร์ (6 ต.ค.) ปรับลดเล็กน้อย นักลงทุนกลับคืนสู่ตลาดอย่างระมัดระวัง ก่อนหน้าฤดูกาลเผยแพร่ผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทต่างๆ ที่จะเริ่มขึ้นในวันพุธ (8 ต.ค.)
ดาวโจนส์ ลดลง 17.78 จุด (0.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,991.91 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 3.08 จุด (0.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,964.82 จุด แนสแดค ลดลง 20.82 จุด (0.47 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,454.80 จุด
นักวิเคราะห์มองว่านักลงทุนจับตาด้วยความกังวลต่อรายงานผลประกอบการที่จะออกมา บางส่วนสืบเนื่องจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา จะส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทเหล่านั้น