น้ำมันขึ้น หุ้นมะกันพุ่ง-ทองคำลงจากข้อมูลยอดขายบ้านสหรัฐฯ

เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันนิวยอร์กขยับขึ้นวานนี้ (24 ก.ย.) หลังพบสต๊อกเชื้อเพลิงสหรัฐฯ ลดลงอย่างมาก ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกจากข้อมูลภาคอสังหาริมทัพย์ สวนทางกับทองคำที่ปรับลด อันมีต้นตอจากดอลลาร์แข็งค่า

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 1.24 ดอลลาร์ ปิดที่ 92.80 ดอลลร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 10 เซ็นต์ ปิดที่ 96.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เผยในวันพุธ (24 ก.ย.) ว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 กันยายน ลดลง 4.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายหลายเท่า ขณะเดียวกัน สต๊อกเบนซินก็ลดลง 414,000 บาร์เรล เหนือความคาดหมายถึง 2 เท่า บ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่งภายในชาติผู้บริโภครายใหญ่ของโลก

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (24 ก.ย.) ปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยรายงานเกี่ยวกับยอดขายบ้าน ช่วยพยุงวอลล์สตรีทฟื้นขึ้นจากแนวลบ หลังร่วงลงแรงในช่วงต้นสัปดาห์

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 154.19 จุด (0.90 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,210.06 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 15.53 จุด (0.78 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,998.30 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 46.53 จุด (1.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,555.22 จุด

ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีขึ้นตามหลังกระทรวงพาณิชย์เผยในรายงานว่ายอดขายบ้านเดี่ยวในเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 18 สู่ 504,000 ยูนิต ถือเป็นการปรับขึ้นในอัตราที่ร้อนแรงที่สุดในรอบกว่า 6 ปี

ข้อมูลทางเศรษฐกิจดังกล่าวได้ส่งให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งปัจจัยนี้เองก็ฉุดให้ราคาทองคำวันพุธ (24 ก.ย.) ปิดลบเล็กน้อย โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 2.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,219.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์