เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - วอลล์สตรีทวานนี้ (30 ก.ค.) ปิดผสมผสาน ส่วนทองคำขยับลง หลังเฟดคงอัตราดอกเบี้ยและข้อมูลรัฐบาลพบเศรษฐกิจไตรมาส 2 แข็งแกร่งเกินคาดหมาย ปัจจัยหลังนี้ดันให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งก็ก่อผลกระทบให้ราคาทองคำปรับลดพอสมควร
ดาวโจนส์ ลดลง 31.75 จุด (0.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,880.36 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 0.12 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,970.07 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 20.20 จุด (0.45 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,462.90 จุด
หุ้นสหรัฐฯ เปิดตลาดในแดนบวก หลังกระทรวงพาณิชย์เผยว่าเศรษฐกิจของอเมริกาในช่วงไตรมาส 2 ขยายตัวร้อยละ 4 เติบโตมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ และส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวจากผลกระทบของสภาพอากาศหนาวจัดในช่วงไตรมาสแรก
แต่ดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ก็แกว่งตัวสู่แนวลบในช่วงครึ่งวันเช้า ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นจนเอสแอนด์พี กลับมาปิดบวกได้สำเร็จ หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระดับต่ำเตี้ยติดพื้นไว้ตามเดิม
ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดหมายของสหรัฐฯ ส่งผลให้อุปสงค์สินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำลดน้อยลงไป และเป็นผลให้ราคาทองคำวานนี้ (30) ขยับลง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 3.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,294.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ขณะเดียวกัน การขยายตัวทางเศรษฐกิจช่วงไตรมาส 2 ที่เกินความคาดหมายของสหรัฐฯ ก็ส่งให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และในทางกลับกันก็ฉุดให้ราคาน้ำมันวันพุธ (30) ปิดลบพอสมควร ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงสูงลิ่ว
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 70 เซ็นต์ ปิดที่ 100.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.21 ดอลลาร์ ปิดที่ 106.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ข่าวคราวเกี่ยวกับจีดีพีของสหรัฐฯ ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับยูโร นับตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน ด้วย 1 ยูโรต่อ 1.3367 ดอลลาร์