เอเอฟพี - ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงแรง ส่วนน้ำมันพุ่งทะยานเมื่อวันพฤหัสบดี (17 ก.ค.) จากข่าวเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สตกในภาคตะวันออกของยูเครนซึ่งถูกยึดครองโดยฝ่ายกบฏ ซ้ำเติมความตึงเครียดรอบใหม่ในความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานาน 1 เดือน ขณะที่ความกังวลทางภูมิรัฐศาสตร์นี้ก็ผลักให้ราคาทองคำขยับขึ้นอย่างมากเช่นกัน
ดาวโจนส์ ลดลง 161.39 จุด (0.94 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,976.81 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 23.45 จุด (1.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,958.12 จุด แนสแดค ลดลง 62.52 จุด (1.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,363.45 จุด
“แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ล้วนเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมในยูเครน” ปีเตอร์ คาร์ดิลโล หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์การตลาด ณ ร็อกเวลล์ โกลบัล แคปิตอลกล่าว “มันเพิ่มระดับความกังวลทางภูมิศาสตร์ให้หนักหน่วงขึ้นไปอีก”
ไม่พบสัญญาณผู้รอดชีวิตจากเหตุเครื่องบินโบอิ้ง 777 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลนส์ ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือ 295 ชีวิตจากอัมสเตอร์ดัมมุ่งหน้าสู่กัวลาลัมเปอร์ ตกในยูเครน ขณะที่ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ไม่ตัดความเป็นไปได้ว่ามันถูกยิงตก และเขาเชื่อว่าเป็นฝีมือของฝ่ายกบฏ
เหตุเที่ยวบินเอ็มเอช 17 ตกในภาคตะวันออกของยูเครนซึ่งถูกยึดครองโดยฝ่ายกบฏ ได้ผลักให้ราคาทองคำวันพฤหัสบดี (17) ดีดตัวขึ้นอย่างแรง ด้วยความกังวลว่ามันจะโหมกระพือวิกฤตในชาติอดีตสหภาพโซเวียตแห่งนี้
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 1.99 ดอลลาร์ ปิดที่ 103.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 72 เซ็นต์ ปิดที่ 107.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ดังกล่าว ประกอบกับข่าวที่สหรัฐฯ คว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม ก็ดันให้ราคาทองคำวานนี้ (17) ปิดบวกแรง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 17.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,316.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
