รอยเตอร์/มาร์เก็ตวอชต์ - วอลล์สตรีทวานนี้ (18) พุ่งแรง จากแรงหนุนของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หนึ่งวันหลังร่วงลงหนัก ผลจากเหตุเที่ยวบิน MH17 ถูกยิงตกและอิสราเอลยกพลบุกกาซา อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครน ก่อความกังวลว่าอเมริกาอาจคว่ำบาตรรัสเซียหนักหน่วงขึ้น ปัจจัยนี้เลยฉุดให้น้ำมันปิดลบ เช่นเดียวกับทองคำที่ขยับลงสืบเนื่องอุปสงค์ที่แท้จริงอ่อนแอ
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 123.37 จุด (0.73 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,100.18 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 20.10 จุด (1.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,978.22 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 68.70 จุด (1.57 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,432.15 จุด
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเป็นหนึ่งในบรรดาหุ้นที่ขยับขึ้นมากที่สุดของวัน โดยเฉพาะกูเกิล ที่ทะยานขึ้นร้อยละ 4.2 สู่ 605.11 ดอลลาร์ต่อหุ้น หลังจากบริษัทค้นหาทางอินเทอร์เน็ตหมายเลข 1 แห่งนี้ รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 แข็งแกร่งเกินคาดหมาย ส่วนหุ้นของเฟซบุ๊ก อิงค์ ก็ปรับขึ้นร้อยละ 3 สู่ 68.42 ดอลลาร์ต่อหุ้น
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงจับตาข่าวคราวทางภูมิรัฐศาสตร์ต่างๆ นานา ในนั้นรวมถึงกรณีที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ร้องขอรัสเซียหยุดสนับสนุนพวกแบ่งแยกดินแดนทางตะวันออกของยูเครน หนึ่งวันหลังจากเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส ถูกขีปนาวุธสอยร่วง ซึ่งเขาบอกว่ามันถูกยิงมาจากดินแดนที่ฝ่ายกบฏครอบครองอยู่
นอกจากนี้แล้ว นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลาง หลังจากอิสราเอลเตือนเมื่อวันศุกร์ (18) ว่าจะขยายขอบเขตปฏิบัติการรุกรานทางภาคพื้นต่อฉนวนกาซาให้กว้างขวางขึ้น
ด้านราคาน้ำมันวานนี้ (18) ปิดลบเล็กน้อย ด้วยมีความกังวลว่าสหรัฐฯจะคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจรัสเซียเพิ่มเติม ตามหลังประธานาธิบดีโอบามา ระบุว่าขีปนาวุธที่สอยเที่ยวบิน MH17 ตกนั้น ถูกยิงออกมาจากดินแดนของฝ่ายกบฏนิยมมอสโก หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธ (16) เพิ่งเพิ่มความหนักหน่วงในมาตรการคว่ำบาตร อันครอบคลุมถึงภาคพลังงานด้วย
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 6 เซ็นต์ ปิดที่ 103.13 ดอลลาร์ ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 65 เซ็นต์ ปิดที่ 107.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนราคาทองคำวันศุกร์ (18) ขยับลงพอสมควร ด้วยอุปสงค์ที่แท้จริงอันซึมเซา ผลักให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำชนิดนี้ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 7.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,309.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์