เอเอฟพี/ซีเอ็นเอ็น - ราคาน้ำมันวานนี้(14ต.ค.) ร่วงลงกว่าร้อยละ 4 หลังทบวงพลังงานโลกปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางอุปสงค์ตามหลังภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในเอเชียและยุโรป ปัจจัยนี้ผลักให้ทองคำปิดบวก ส่วนวอลล์สตรีททรงตัวท่ามกลางรายงานผลประกอบการบริษัท
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 3.90 ดอลลาร์ หรือร้อยละ 4.5 ปิดที่ 81.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 3.85 ดอลลาร์ หรือร้อยละ 4.3 ปิดที่ 85.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แตะระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2010
นับตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนเป็นต้นมา สัญญาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลงแล้วกว่าร้อยละ 24 ส่วนเบรนท์ลอนดอน ลดลงถึงร้อยละ 27
ในรายงานประจำเดือนตุลาคม ทบวงพลังงานระหว่างประเทศ(ไออีเอ) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตอุปสงค์น้ำมันโลกลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยอ้างถึงอุปทานน้ำมันดิบที่ล้นตลาด ตามหลังเศรษฐกิจในเอเชียและยุโรปชะลอตัวลง
ไออีเอ คาดหมายว่าในปีนี้ อุปสงค์พลังงานโลกจะเพิ่มขึ้นแค่ 700,000 บาร์เรลต่อวันเป็น 92.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลงจากการประมาณการณ์คราวก่อน 200,000 บาร์เรลต่อวัน ส่วนในปี 2015 ทบวงพลังงานระหว่างประเทศแห่งนี้ ปรับลดอุปสงค์พลังงานโลก จาก 93.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลงเหลือ 93.5 ล้านบร์เรลต่อวัน
ความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกนี้เอง ที่ผลักให้ราคาทองคำวันอังคาร(14ต.ค.) ปิดบวกแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 สัปดาห์ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์เพิ่มขึ้น 4.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,234.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(14ต.ค.) ปิดผสมผสาน หลังได้แรงพยุงจากรายงานผลประกอบการอันแข็งแกร่งของบริษัทต่างๆ ที่ช่วยกลบกระแสความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก
ดาวโจนส์ ลดลง 19.57 จุด (0.12 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,301.50 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 0.86 จุด (0.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,875.60 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 13.51 จุด (0.32 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,227.17 จุด
ก่อนหน้านี้วอลล์สตรีทร่วงลงมา 3 วันติดท่ามกลางความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตามในวันอังคาร(14ต.ค.) ตลาดได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการของซิตีกรุ๊ปและจอห์นสันแอนด์จอห์นสันที่เหนือกว่าคาดหมาย ส่วนเวลล์ส ฟาร์โก ก็ออกมาตามที่กะเก็ง ส่วนเจพีมอร์แกน เชส ต่ำว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์แค่เล็กน้อย
