เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - ราคาน้ำมันนิวยอร์ก วานนี้ (8 ต.ค.) ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดรอบ 18 เดือน หลังพบอุปสงค์ที่อ่อนแอในสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีทพุ่งและทองคำปรับลดเล็กน้อย ตามรายงานการประชุมเฟดที่บ่งชี้ว่าธนาคารกลางแห่งนี้ยังไม่มีแผนเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงิน
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1.54 ดอลลาร์ ปิดที่ 87.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2013 ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 73 เซนต์ ปิดที่ 91.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯเผยในวันพุธ (8 ต.ค.) ว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 ตุลาคม เพิ่มขึ้น 5.0 ล้านบาร์เรล เหนือกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายเกือบ 3 เท่า บ่งชี้ถึงอุปสงค์อันอ่อนแอภายในชาติผู้บริโภครายใหญ่ของโลก
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ (8 ต.ค.) พุ่งขึ้นแรง หลังรายงานการประชุมเฟด minutes ส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางอเมริกาแห่งนี้จะยังคงนโยบายทางการเงินตามเดิม
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 274.83 จุด (1.64 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,994.22 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 33.79 จุด (1.75 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,968.89 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 83.39 จุด (1.90 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,468.59 จุด
รายงาน minutes ของที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประจำเดือนกันยายน เผยแพร่ออกมาท่ามกลางความกังวลของนักลงทุนว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำเป็นประวัติการณ์เร็วก่อนกำหนดในปี 2015 ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจ แต่หลังจากเห็นรายงานแล้วตลาดก็ดูผ่อนคลายเป็นอย่างมาก
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังประหลาดใจที่เฟดแสดงความกังวลต่อดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอในต่างแดน ซึ่งปัจจัยนี้เองที่ผลักให้ทองคำวานนี้ (8 ต.ค.) ปิดลบเล็กน้อย โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 6.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,206.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์