น้ำมัน-ทองคำขึ้นจากข้อมูลแรงงานสหรัฐฯ หุ้นมะกันทรงตัว

เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันปิดบวกวันศุกร์ (7 พ.ย.) นักลงทุนช้อนซื้อท่ามกลางข้อมูลภาคแรงงานอันผสมผสานสหรัฐฯ ขณะที่ตัวเลขดังกล่าวยังเป็นต้นตอให้วอลล์สตรีททรงตัวและทองคำพุ่งแรง

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 74 เซ็นต์ ปิดที่ 78.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน เพิ่มขึ้น 53 เซ็นต์ ปิดที่ 83.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

กระทรวงแรงงานอเมริกาเผยว่า เหล่านายจ้างมีการจ้างงานเพิ่มเติม 214,000 อัตราในเดือนตุลาคม แม้ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ที่ 235,000 อัตรา แต่ขณะเดียวกันก็มีการปรับแก้ตัวเลขของเดือนสิงหาคม และกันยายน ด้วยพบมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 31,000 อัตรา มากกว่ารายงานที่เผยแพร่ออกมาก่อนหน้านี้

หากเจาะลึกเข้าไปดูในรายละเอียดแล้วจะพบว่า ยอดการจ้างงานรายเดือนเกินกว่า 200,000 อัตราเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกันแล้ว ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1994 แต่นักวิเคราะห์มองว่ามันยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะโน้มน้าวให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนกำหนด

นอกจากข้อมูลดังกล่าวแล้ว ในรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ยังพบว่าตัวเลขคนว่างงานร่วงจากร้อยละ 5.9 ของเดือนกันยายน มาอยู่ที่ร้อยละ 5.8 ต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี ทั้งนี้การที่มีคนเข้าสู่กำลังแรงงานมากขึ้น คือสัญญาณของความเข้มแข็งของตลาดแรงงาน

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันศุกร์ (7 พ.ย.) ดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ทุบสถิติตลอดกาลรอบใหม่ หลังจากกระทรวงแรงงานรายงานเศรษฐกิจอเมริกาจ้างงานเพิ่มเติม 214,000 อัตราและยอดคนว่างงานลดลง

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 19.46 จุด (0.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,573.93 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 0.68 จุด (0.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,031.89 จุด แนสแดค ลดลง 5.94 จุด (0.13 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,632.53 จุด

อย่างไรก็ตาม ด้วยที่ตัวเลขการจ้างงานดังกล่าวออกมาน้อยกว่าที่คาด นักลงทุนบางส่วนจึงหันเข้าไปถือครองทองคำเพื่อลดความเสี่ยง และส่งผลให้ราคาโลหะมีค่าชนิดนี้เมื่อวันศุกร์ (7 พ.ย.) เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 27.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,169.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์