เอเอฟพี - ราคาน้ำมันสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (26 พ.ย.) ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีครั้งใหม่ หลังคาดหมายว่าโอเปกจะไม่เพิ่มกำลังผลิต ขณะที่วอลล์สตรีท และทองคำปิดสวนทางท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจที่ผสมผสาน
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 40 เซ็นต์ ปิดที่ 73.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2010 ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 58 เซ็นต์ ปิดที่ 77.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักลงทุนไตร่ตรองท่าทีจากเหล่ารัฐมนตรีพลังงานชาติต่างๆก่อนหน้าการประชุมของกลุ่มโอเปกในวันพฤหัสบดี (27 พ.ย.) ท่ามราคาน้ำมันที่ขยับลงแล้วกว่าร้อยละ 30 นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา
อย่างไรก็ตาม แอนดี ลิโพว์ นักวิเคราะห์จากลิโพว์ ออย แอสโซซิเคท ระบุว่าจากความเห็นต่างๆ นานาที่มีก่อนหน้าการประชุม ทำให้เชื่อได้ว่าโอเปกจะไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้น
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ(26พ.ย.) ปิดบวกเล็กน้อย แต่ก็ยังทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลอีกรอบ ท่ามกลางข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ผสมผสาน
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 12.69 จุด (0.07 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,827.63 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 5.80 จุด (0.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,072.83 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 29.07 จุด (0.61 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,787.32 จุด
ข้อมูลเดือนตุลาคมพบว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค คำสั่งซื้อสินค้าคงทนและยอดขายบ้านใหม่ปรับตัวดีขึ้น ทว่าข้อมูลของกระทรวงแรงงานพบยอดผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 22 พฤศจิกายน ก็สูงขึ้นเช่นกัน
ส่วนราคาทองคำวานนี้ (26 พ.ย.) ขยับลงเล็กน้อย ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง นักลงทุนพักหายใจหายคอ หลังตลอดทั้งเดือนที่ผ่านมาโลหะมีค่าชนิดนี้ดีดขึ้นพอสมควร ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 50 เซนต์ ปิดที่ 1,196.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์