xs
xsm
sm
md
lg

“โบโกฮารัม” ขยายพื้นที่เข้าโจมตี “แคเมอรูน” ใช้นักรบญิฮัด “เมายา - ฝึก 3 สัปดาห์” เข้าจู่โจม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - หลังจากแผ่อิทธิพลในไนจีเรีย กลุ่มมุสลิมติดอาวุธยกระดับการโจมตีข้ามพรมแดนไปโจมตีหมู่บ้านในแคเมอรูน พร้อมด้วยอาวุธที่มีความสามารถสูงเพิ่มมากขึ้น ท่ามกลางความวิตกของกองทัพแคเมอรูนว่าจะมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นในหน้าแล้งที่กำลังจะมาถึง ซึ่งแหล่งข่าวกรองแคเมอรูนเผยว่า นักรบญิฮัดที่กองทัพแคเมอรูนได้เผชิญหน้าล้วนเป็นญิฮัดระดับล่างที่เพิ่งผ่านการเข้าฝึกอบรมระยะ 3สัปดาห์ และถูกส่งมารบ โดยทางเหล่าญิฮัดจะได้รับแจกเป็นเงินและยาเสพติดในสัปดาห์แรกของการอบรม

“เราเชื่อว่าการก่อตั้งรัฐอิสลามที่มีคอลิฟะห์เป็นผู้นำนั้นจะไม่หยุดอยู่แค่ในไนจีเรีย แต่ยังขยายอาณาเขตข้ามมายังแคเมอรูน” ลีโอโพลด์ อีเบล (Leopold Nlate Ebale) ผู้บัญชาการรบกองกำลังพิเศษแคเมอรูนประจำพรมแดนให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี

โดยก่อนหน้านี้ หัวหน้ากลุ่มติดอาวุธโบโกฮารัม อาบูบาการ์ เชเกา (Abubakar Shekau) ได้ออกมาประกาศที่จะจัดตั้งรัฐอิสลามที่มีคอลิฟะห์เป็นผู้นำของรัฐ คล้ายกับที่กลุ่มมุสลิมติดอาวุธสุหนี่ IS ต้องการตั้งรัฐอิสลามในซีเรียและอิรัก

เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดโบโกฮารัมตั้งเป้าโจมตีจุดตรวจบริเวณพรมแดนแคมเมอรูนหลายจุดที่ติดรัฐบอร์โนของไนจีเรียที่ทางกลุ่มเข้าคุมสำเร็จ นอกจากนี้ยังพบว่าโบโกฮารัมใช้แคมเมอรูนเป็นเสมือนแหล่งกบดานและแหล่งสะสมเสบียงและอาวุธ

แต่ทว่าความเคลื่อนไหวโบโกฮารัมล่าสุดได้โจมตีลึกเข้าไปในแคเมอรูนจากทางเหนือของประเทศ โดยแหล่งข่าวกองทัพแคเมอรูนได้เปิดเผยว่า กลุ่มติดอาวุธได้ปาดคอชาวบ้านที่กำลังจับจ่ายซื้อสินค้าในตลาดในช่วงกลางวันที่มีคนพลุกพล่านใกล้กับเมืองโมโกโล(Mokolo)ที่อยู่ทางเหนือของแคเมอรูน

“และหน้าแล้งในกาฬทวีปที่โหดร้ายกำลังจะมาถึงนี้จะเพิ่มศักยภาพให้โบโกฮารัมสามารถก่อการร้ายได้เพิ่มมมากขึ้น” พันเอกจาค็อบ คอดจิ (Jacob Kodji) ผู้บัญชาการทหารประจำภาคเหนือแคเมอรูนให้ความเห็น และอธิบายว่า “เพราะคนพวกนั้นไม่จำเป็นต้องข้ามสะพานอีกต่อไป เพราะไม่มีแม่น้ำเป็นอุปสรรคขวางกั้นอีกต่อไป จะข้ามพรมแดนเข้ามาเมื่อไรก็ได้ หรือโดยวิธีใดได้ตามที่ต้องการ”

จากรายงานข่าวพบว่า โบโกฮารัมสามารถเข้ายึดเมืองในฝั่งไนจีเรียได้ราว 20 เมือง และสะสมอาวุธยุทโปกรณ์ที่ได้จากการบุกเข้าฐานทัพกองกำลังไนจีเรีย และทำให้ในขณะนี้โบโกฮารัมมีทั้งยานหุ้มเกราะ กับระเบิด ปืนไรเฟิลอัตโนมัติ AK47 และที่ยิงขีปนาวุธแบบประทับบ่า

กองทัพแคเมอรูนเริ่มกังวลมากขึ้นในการเคลื่อนไหวของโบโกฮารัมที่ระดมกำลังเข้าใกล้เมืองใหญ่ เช่น เมือง Maroua ซึ่งเป็นเมืองหลักของภาคเหนือของแคเมอรูนที่ห่างไกล

เอเอฟพีรายงานว่า แคเมอรูนได้ส่งทหารร่วม 2,000 นาย ไปปฎิบัติหน้าที่ในภาคเหนือ และมีนายทหารเสียชีวิต 32 นายจากการปะทะตั้งแต่เริ่มปฎิบัติการ ซึ่งถึงแม้กองกำลังแคเมอรูนจะรบแพ้กลุ่มติดอาวุธ แต่รัฐบาลแคเมอรูนยังยืนกรานว่า ในท้ายที่สุดกองทัพสามารถตีคืนกลับได้

และพบว่าถึงแม้กองกำลังรบพิเศษของแคเมอรูนที่มีราว  4,000 นายนั้นได้รับการฝึกจากอิสราเอล แต่กระนั้นบรรดาผู้สังเกตการณ์ต่างเคลือบแคลงถึงความสามารถของกองกำลังในหน่วยรบปกติ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสถานการณ์การรบที่มีระดับใหญ่ขึ้น เช่น ทำสงครามอย่างเต็มรูปแบบ “ในขณะนี้ยังเห็นว่ากองทัพแคเมอรูนยังพอสามารถรับมือกับการโจมตีของโบโกฮารัมได้ แต่หากทางกลุ่มติดอาวุธยกระดับการสู้รบเป็นสงคราม กลุ่มติดอาวุธเหล่านั้นจะสามารถลุยผ่านแนวป้องกันของกองทัพแคเมอรูนเข้าไปอย่างไม่ยาก” แหล่งข่าวในแวดวงข่าวกรองแคเมอรูนให้ความเห็น

และเสริมต่อถึงสาเหตุที่โบโกฮารัมมีศักยภาพสูงกว่าว่า “แทนที่จะส่งนักรบบญิฮัดที่มีประสบการณ์จากไนจีเรียเข้ามาก่อการในแคเมอรูน โบโกฮารัมกลับส่งญิฮัดฝึกหัด ที่ขาดประสบการณ์ อายุน้อย และบ้าบิ่นเข้ามาแทน ซึ่งคนเหล่านี้ที่ทางกองทัพได้ต่อสู้ด้วยผ่านการเข้าค่ายฝึกเพียงแค่ 3 สัปดาห์เท่านั้น โดยใน(1)สัปดาห์แรกนักรบญิฮัดเหล่านี้จะได้รับแจกเงินและยาเสพติด และ(2)ในสัปดาห์ที่สองจะเรียนรู้การประกอบและการถอดปืนไรเฟิลอัตโนมัติ AK47 และ(3)ในสัปดาห์ที่สาม คนเหล่านี้จะถูกส่งไปยังแนวหน้า”