เอเอฟพี - ผู้หญิงและเด็กจำนวนมากกว่า 60 คนที่ถูกลักพาตัวจากทางเหนือของไนจีเรียในเดือนที่ผ่านมา สามารถหลบหนีออกมาจากที่กักขังของกลุ่มก่อการร้ายโบโกฮารัมออกได้สำเร็จในระหว่างที่การ์ดออกไปรบกับกองทัพไนจีเรีย แหล่งข่าวไนจีเรียเปิดเผยเมื่อวานนี้(6) ด้านชะตากรรมของกลุ่มนักเรียนหญิงไนจีเรียร่วม 200 คนยังไม่ทราบ
อับบาส กาวา (Abbas Gava) แกนนำชาวไนจีเรียท้องถิ่นเปิดเผยกับเออเฟพีว่า เขาได้รับการติดต่อจากเพื่อนร่วมงานให้ทราบว่า กลุ่มผู้หญิงและเด็กราว 63 คนที่ถูกลักพาตัวไปเมื่อเดือนที่แล้วสามารถหนีรอดออกมาได้ และเดินทางกลับบ้านพักในช่วงดึกวันศุกร์(4)ที่ผ่านมา
แหล่งข่าวระดับสูงด้านความมั่นคงในบอร์โน เมืองเอกของไมดูกูริ ( Maiduguri) ได้ยืนยันข่าวการหลบหนีออกมาได้ของกลุ่มเหยื่อลักพาตัวชุดนี้
กาวา แกนนำระดับสูงของกลุ่มท้องถิ่นปกป้องตนเองในบอร์โน ที่ทำงานใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลไนจีเรียให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า เหยื่อที่หลุดรอดออกมาได้ฉวยโอกาสหนีในระหว่างที่ผู้คุมออกไปรบ “พวกเธอเหล่านั้นฉวยโอกาสช่วงที่เหล่าการ์ดต้องออกไปปฎิบัติการข้างนอก สามารถหลบหนีออกมาได้อย่างกล้าหาญ” กาวาเผย
การสู้รบเกิดขึ้นระหว่างกลุ่มก่อการร้ายโบโกฮารัมและกองทัพไนจีเรียในดึกคืนวันศุกร์(4)ล่าสุด หลังจากที่มีการโจมตีเกิดขึ้นที่ดัมโบ( Damboa ) และส่งผลทำให้มีผู้ก่อการร้ายเสียชีวิต 53 คน และทหารไนจีเรียอีก 6 นาย กองทัพไนจีเรียแถลง
โบโกฮารัมได้โจมตีค่ายทหารไนจีเรีย และสถานีตำรวจท้องถิ่นในขณะที่กำลังของเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่อยู่ในระหว่างภารกิจลาดตระเวนรอบหมู่บ้าน อย่างไรก็ตามเอเอฟพีไม่สามารถติดต่อขอความเห็นจากกองทัพไนจีเรีย หรือตำรวจ ในความคืบหน้าล่าสุดคดีลักพาตัวกลุ่มนักเรียนหญิงไนจีเรียได้
กลุ่มรณรงค์นำเด็กผู้หญิงกลับบ้านพยายามเดินขบวนกดดันที่หน้าทำเนียบประธานาธิบดีไนจีเรียในวันอาทิตย์(6) แต่ถูกหน่วยตำรวจปราบจลาจลไนจีเรียผลักดันให้ออกจากพื้นที่ “วันนี้ครบรอบ 83 วันของการลักพาตัวกลุ่มนักเรียนหญิงไนจีเรีย” ไอชา เยซูฟา (Aisha Yesufa) นักรณรงค์ “#Bring Back Our Girls” ให้สัมภาษณ์กับสื่อหลังจากเดินขบวนเสร็จสิ้น และเสริมต่อว่า “ทางเราได้เคลื่อนไหวมาเป็นเวลา 68 วันแล้วแต่ไม่มีใครสนใจเราอย่างจริงจัง และทำให้ทางกลุ่มตัดสินใจที่ต้องดำเนินการประท้วงอย่างดุเดือดกับประธานาธิบดีไนจีเรีย กู๊ดลัค โจนาธาน เพื่อให้เขารู้ว่า เรายังอยู่ที่นี่ และเราจะออกเดินขบวนทุกวันหลังจาก 68 วันแห่งการรอคอยผ่านพ้นไป”
ทั้งนี้ชะตากรรมของนักเรียนหญิงไนจีเรียร่วม 219 คน จากทั้งหมด 276 คนที่ถูกกลุ่มโบโกฮารัมลักพาตัวไปจากชิบอกยังคงไร้ร่องรอย ในวันศุกร์(4) กลุ่มชาวบ้านที่อาศัยในชิบอกได้ยื่นข้อร้องเรียนต่อองค์การสหประชาชาติให้เข้ามาแทรกแซง เพราะสถานการณ์ความรุนแรงในท้องที่เลวร้ายลงไปทุกขณะ โดยทางชุมชนท้องถิ่นอ้างว่า กลุ่มติดอาวุธนั้นสังหารคนไปทั่วโดยปราศจากความยำเกรงกฎหมาย
ในรัฐบาลไนจีเรียออกกฎหมายภาวะฉุกเฉินในเดือนมิถุนยน 2013 ครอบคลุมพื้นที่บอร์โน และเมืองใกล้เคียง โยเบ (Yobe) และ แอดามาวา (Adamawa) เพื่อบังคับให้สมาชิกกลุ่มติดอาวุธเดินทางออกนอกพื้นที่เขตเมือง แต่ทว่าชาวไนจีเรียที่อาศัยในบริเวณห่างไกลต้องรับผลกระทบแทน จากการที่มีความรุนแรงเกิดขึ้นเกือบทุกวัน นักวิเคราะห์กล่าว
นอกจากนี้แอมเนสตีสากลอ้างว่า ในเดือนมิถุนายนล่าสุด ผู้บัญชาการรบของกลุ่มติดอาวุธในบอร์โนได้เตือนล่วงหน้าถึงการลักพาตัวในชิบอก (Chibok) แต่ไม่สามารถรวบรวมกองกำลังให้มากพอที่จะส่งออกไปได้
