รมว.ต่างประเทศรัสเซียลั่น ฝรั่งเศสต้องส่งเรือรบ “วลาดิวอสต็อก” ให้ตามสัญญา

เอเอฟพี - เซียร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียวันนี้ (5 ธ.ค.) ออกโรงเตือนว่า ฝรั่งเศสกำลังแขวนชื่อเสียงของประเทศไว้กับสัญญาส่งมอบเรือรบให้รัสเซีย ภายหลังแดนน้ำหอมถูกชาติพันธมิตรกดดันให้เลื่อนกำหนดส่งมอบเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ “วลาดิวอสต็อก” ให้แก่มอสโกออกไปอย่างไม่มีกำหนด สืบเนื่องจากวิกฤตสู้รบ ทางภาคตะวันออกยูเครน

เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวรอบนอกการประชุมองค์การความมั่นคงและความร่วมมือแห่งยุโรป (โอเอสซีอี) ที่สวิตเซอร์แลนด์ว่า “ผมเริ่มเหนื่อยกับคำถามนี้แล้ว นี่ไม่ใช่ปัญหาของเราแล้ว” แต่เป็นปัญหาที่มีเสียงของฝรั่งเศสเป็นเดิมพัน “พวกเขาต้องทำตามข้อผูกพันในสัญญา”

สัปดาห์ที่แล้วคืออีกครั้งหนึ่งซึ่ง ประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ โอลองด์ แห่งฝรั่งเศสประกาศเลื่อนกำหนดส่งมอบเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ชั้น “มิสทราล” ลำแรกจากทั้งหมด 2 ลำที่ฝรั่งเศสตกลงสร้างให้รัสเซียออกไป “จนกว่าจะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้ง”

ผู้นำแดนน้ำหอมให้เหตุผลว่า “สถานการณ์ทางภาคตะวันออกของยูเครนในตอนนี้ ไม่เอื้อต่อการส่งมอบเรือรบลำแรก”

แม้ว่าจะยังไม่มีการกำหนดวันส่งมอบอย่างแน่ชัด แต่โอลองด์เน้นย้ำว่า เขาจะไม่โอนอ่อนผ่อนตามตามแรงกดดัน และสัญญานี้ก็ยังไม่ตกเป็นโมฆะ

ก่อนหน้านี้ รัสเซียขู่จะฟ้องฝรั่งเศสอย่างจริงจัง หากไม่ได้รับเรือรบลำแรกตรงตามกำหนดเวลา

อย่างไรก็ตาม มอสโกกลับแสดงทีท่าใจเย็นอยู่บ้าง เมื่อรับทราบว่า ฝรั่งเศสตัดสินใจเลื่อนนัดออกไปครั้งล่าสุด

ยูรี บอริซอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมให้สัมภาษณ์สื่อของทางการแดนหมีขาวว่า “เราจะอดทนรอต่อไป... และตอนนี้เรายังไม่ได้ยื่นฟ้องฝรั่งเศสกับศาลใด”

ตามสัญญาที่ทั้งสองชาติลงนามร่วมกันเมื่อปี 2011 นั้น ฝรั่งเศสจะต้องส่งมอบเรือวลาดิวอสต็อก ซึ่งสามารถบรรทุกทหารได้ 450 นาย เฮลิคอปเตอร์ทหาร 16 ลำ เรือระบายพล 4 ลำ และยานหุ้มเกราะ 13 คันลำนี้ ให้แก่รัสเซียตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

ปารีสอาจต้องจ่ายค่าปรับก้อนใหญ่ หากละเมิดสัญญาซื้อขายเรือมิสทราลมูลค่า 1.2 พันล้านยูโร (ราว 4.88 หมื่นล้านบาท) ที่ทำร่วมกับรัสเซีย

กระนั้น แดนน้ำหอมก็อาจสร้างความขุ่นเคืองหล่าชาติพันธมิตรทั่วโลก หากประเทศนี้ยอมส่งยุทโธปกรณ์ให้แก่รัสเซีย ในยามที่ชาติตะวันตกกำลังรุมคว่ำบาตรรัสเซีย ฐานลอบสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธใฝ่มอสโกในการเคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออกของยูเครน

โอลองด์ได้ออกมาย้ำนักน้ำหนาว่า ฝรั่งเศสจะยอมส่งมอบเรือลำแรกให้แก่มอสโก ก็ต่อเมื่อมีการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงในยูเครนโดยสมบูรณ์

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าการทำข้อตกลงหยุดยิงให้ได้ผลยืนยาวนั้นเป็นได้เพียงความฝันลมๆ แล้งๆ เนื่องจากยังคงเกิดการปะทะกันทางภาคตะวันออกของยูเครนอย่างไม่หยุดหย่อน แม้ว่ารัสเซียจะสามารถผลักดันให้กลุ่มติดอาวุธแบ่งแยกดินแดนใฝ่รัสเซีย บรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับกองกำลังยูเครนได้สำเร็จเมื่อวันที่ 5 กันยายน ก็ตาม

วานนี้ (4) เคียฟ และกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซียออกมาประกาศพักรบครั้งล่าสุด ในวันอังคารที่จะถึงนี้ (9) ซึ่งเป็นการจุดประกายความหวังอันริบหรี่ว่า วิกฤตความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานาน 8 เดือน และทำให้มีผู้เสียชีวิตไปราว 4,300 คนจะดำเนินมาถึงจุดจบ

รัสเซียได้ปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ไม่ได้เป็นผู้จัดหาอาวุธ และให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏทางภาคตะวันออกของยูเครน ตามที่ถูกชาติตะวันตกกล่าวหา

ลาฟรอฟกล่าว่า เขาคาดหวังว่า การทำข้อตกลงหยุดยิงครั้งล่าสุดนี้จะนำไปสู่การเซ็นสัญญาสงบศึกในที่สุด