เอเจนซีส์– สหรัฐฯ เริ่มส่งทหารชุดแรก 50 นายเข้าไปยังจังหวัดอันบาร์ทางภาคตะวันตกของอิรักเพื่อช่วยต่อสู้กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ซึ่งกำลังยึดพื้นที่ และเตรียมจะส่งทหารเข้าไปเพิ่มเติมอีกเร็วๆนี้ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯแถลงเมื่อวันจันทร์(10)
เอลิสซา สมิธ โฆษกเพนตากอน ระบุว่า “ดิฉันยืนยันได้ว่า ทหารอเมริกันประมาณ 50 นายกำลังเดินทางไปยังฐานทัพอากาศ อัล-อาซัด เพื่อสำรวจสถานที่สำหรับใช้ปฏิบัติภารกิจแนะนำและให้ความช่วยเหลือกองกำลังความมั่นคงอิรักในอนาคต”
สมิธ กล่าวเสริมว่า ทหารบางนายมีหน้าที่คุ้มกันผู้เชี่ยวชาญซึ่งเดินทางเข้าไปสำรวจสถานที่ แต่ทหารอเมริกันจะไม่ส่งอาวุธไปช่วยชนเผ่ามุสลิมสุหนี่ในพื้นที่ดังกล่าว
“กองกำลังสหรัฐฯ จะไม่ติดอาวุธให้แก่ชนเผ่าต่างๆ ในภูมิภาคนั้น เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและกองกำลังความมั่นคงอิรัก”
การเคลื่อนกำลังพลครั้งนี้เกิดขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จะส่งทหารอเมริกันเข้าไปปฏิบัติภารกิจในอิรักเพิ่มเติมอีก 1,500 นาย รวมถึงครูฝึกและที่ปรึกษาทหารซึ่งจะปฏิบัติงานในจังหวัดอันบาร์
พื้นที่บางส่วนของจังหวัดอันบาร์ซึ่งพลเมืองส่วนใหญ่เป็นมุสลิมสุหนี่ได้กลายเป็นฐานที่มั่นสำคัญของกลุ่มไอเอส ขณะที่กองกำลังอิรักก็ถูกตีโต้จนต้องถอยร่นมาอยู่ที่ฐานทัพอากาศ อัล-อาซัด ในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้
ฐานทัพอากาศซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลทรายแห่งนี้เคยเป็นศูนย์บัญชาการแห่งหนึ่งของกองทัพอเมริกันในสมัยที่วอชิงตันยึดครองอิรักในช่วงปี 2003-2011 และยังเป็นฐานที่มั่นหลักของนักรบท้องถิ่นและกองกำลังความมั่นคงอิรักที่กำลังป้องกันเขื่อนฮาดิธา (Haditha) เขื่อนใหญ่อันดับ 2 ของอิรัก ไม่ให้ถูกพวกไอเอสยึดไปได้
ความพ่ายแพ้หลายต่อหลายครั้งของกองกำลังอิรักเป็นสัญญาณเตือนว่า จังหวัดอันบาร์ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของกรุงแบกแดด และกินพื้นที่จรดพรมแดนซีเรีย, จอร์แดน และซาอุดีอาระเบีย อาจจะถูกกลุ่มไอเอสตีแตกทั้งเมืองในที่สุด
เจ้าหน้าที่อิรักและหัวหน้าชนเผ่า ระบุว่า นักรบไอเอสได้สังหารหมู่ประชาชนจำนวนมากในช่วงไม่กี่วันมานี้ เพื่อสร้างความหวาดกลัวต่อคนในพื้นที่ โดยเฉพาะชนเผ่าหนึ่งที่ยังคงยืนหยัดต่อต้านพวกเขา