รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - คะแนนนิยมล่าสุดของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะแห่งญี่ปุ่น ปรับร่วงลงถึง 8 จุดเหลือเพียง 44 เปอร์เซ็นต์ในการสำรวจโดยสถานีโทรทัศน์ “เอ็นเอชเค” ถือเป็นระดับคะแนนนิยมที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ที่อาเบะได้กลับเข้ามาครองอำนาจในฐานะนายกรัฐมนตรีแดนปลาดิบเป็นสมัยที่สอง เมื่อ 2 ปีก่อน ท่ามกลางกระแสข่าวเรื่องการจัดเลือกตั้งก่อนกำหนดที่เริ่มหนาหูขึ้นทุกขณะ
ผลสำรวจของเอ็นเอชเคที่มีการเผยแพร่ออกมาล่าสุดซึ่งรวบรวมความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,527 คนจากทั่วประเทศพบว่า คะแนนนิยมของประชาชนต่อตัวนายกรัฐมนตรีอาเบะในขณะนี้ ได้ปรับลดลงถึง 8 จุดเมื่อเทียบกับเดือนที่แล้วเหลือเพียง 44 เปอร์เซ็นต์ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่ที่อาเบะได้กลับมาเป็นผู้นำรัฐบาลญี่ปุ่นเมื่อ 2 ปีก่อน
ขณะที่สัดส่วนของผู้ที่ยอมรับว่า “ไม่ปลื้ม” กับผลงานของนายกรัฐมนตรีสายเหยี่ยวรายนี้ได้เพิ่มขึ้นอีก 4 จุดจากเดือนที่แล้ว เป็น 38 เปอร์เซ็นต์
คะแนนนิยมของอาเบะร่วงลงอย่างสำคัญนับตั้งแต่ที่รัฐมนตรีร่วมรัฐบาลของเขาอย่างน้อย 2 คน ถูกกดดันให้ลาออกจากเรื่องอื้อฉาวทางการเมืองและการทุจริต
อย่างไรก็ดี ผลสำรวจพบว่า 76 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างชาวญี่ปุ่นยังมองไม่เห็นถึงความจำเป็นใดๆที่จะต้องมีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ ขณะที่อีก 74 เปอร์เซ็นต์ต้องการให้มีการเลื่อนหรือยกเลิกมาตรการขึ้นภาษีการขายที่เรียกเก็บจากการขายสินค้าและบริการจาก 8 เปอร์เซ็นต์เป็น 10 เปอร์เซ็นต์ที่จะมีผลบังคับใช้ในปีหน้า
ผลสำรวจยังระบุว่า ชาวญี่ปุ่น 1 ใน 4 ต้องการให้รัฐบาลอาเบะเร่งเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่อีก 24 เปอร์เซ็นต์และ 12 เปอร์เซ็นต์ต้องการให้รัฐบาลโฟกัสกับการปฏิรูประบบสวัสดิการ และพลังงานนิวเคลียร์ตามลำดับ
ทั้งนี้ เป็นที่คาดกันว่าอาเบะอาจตัดสินใจก่อนสิ้นปีนี้ว่าจะเดินหน้าแผนการขึ้นภาษีดังกล่าวหรือไม่ ท่ามกลางกระแสข่าวที่ระบุว่า เขาอาจชะลอแผนดังกล่าวและจัดการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนด