เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - รัฐบาลผสมของฟินแลนด์เผชิญความขัดแย้งหนัก หลังพรรค “กรีน” ซึ่งยึดมั่นนโยบายปกป้องสภาพแวดล้อมประกาศถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล เพราะรับไม่ได้ที่รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีอเล็กซานเดอร์ สตับบ์ ประกาศเดินหน้าผลักดันโครงการพัฒนา “พลังงานนิวเคลียร์” ภายในประเทศ
รายงานข่าวล่าสุดจากกรุงเฮลซิงกิ ยืนยันว่าพรรคสันนิบาตสีเขียว หรือพรรคกรีน ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ยึดมั่นนโยบายดูแลสภาพแวดล้อมภายใต้การนำของนายวิลล์ นีนิสโท ประกาศถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาลผสมในวันที่ 20 กันยายนนี้ โดยระบุ สาเหตุของการแตกหักทางการเมืองครั้งนี้ มาจากความไม่พอใจของพรรค ต่อจุดยืนของรัฐบาลฟินแลนด์ชุดปัจจุบัน ที่ดึงดันจะผลักดันโครงการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ภายในประเทศ
ด้านอเล็กซานเดอร์ สตับบ์ วัย 46 ปี ซึ่งเพิ่งก้าวขึ้นรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 43 ในประวัติศาสตร์การเมืองฟินแลนด์ไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ออกมาแถลงยืนยันว่า ตัวเขาและคณะรัฐมนตรีจะไม่ลาออกจากตำแหน่งแม้จะกลายเป็น “รัฐบาลเสียงข้างน้อย” และจะขอทำหน้าที่บริหารประเทศร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออีก 4 พรรคต่อไปจนครบวาระในเดือนเมษายนปีหน้า ท่ามกลางกระแสข่าวที่ระบุว่า สตับบ์เตรียมปรับครม.ครั้งใหญ่ในวันที่ 26 กันยายนนี้
ความเคลื่อนไหวล่าสุดถือเป็นวิกฤตทางการเมืองครั้งสำคัญของฟินแลนด์ ชาติสมาชิกที่อยู่ตอนเหนือสุดของกลุ่ม “ยูโรโซน” ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเสถียรภาพทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองสูงที่สุดในโลก
ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลเสียงข้างน้อยของนายกรัฐมนตรีอเล็กซานเดอร์ สตับบ์ อาจต้องเผชิญกับการอภิปรายเพื่อลงมติ “ไม่ไว้วางใจ” ในสัปดาห์หน้า ขณะที่นักวิเคราะห์ระบุว่า รัฐบาลผสมชุดปัจจุบันของฟินแลนด์ อาจอยู่ไม่รอดไปจนถึงเดือนเมษายนปีหน้า และอาจต้องมีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนด