ข้อตกลงหยุดยิงอย่างไม่มีกำหนดยังคงยืนหยัดได้ในวันพุธ(27) พบเห็นประชาชนในกาซาออกมาจับจ่ายซื้อของและไปธนาคาร พยายามกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ผิดกับนายกรัฐมนตรีอิสราเอล ที่ต้องเผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักภายในประเทศต่อการลงทุนที่แสนแพงในความขัดแย้งกับพวกนักรบปาเลสไตน์ แต่กลับไม่ได้ชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม เนทันยาฮู ก็แถลงโต้ ยืนกรานพวกฮามาสถูกเล่นงานอย่างหนักและไม่ได้บรรลุเป้าหมายตามที่เรียกร้องแม้แต่น้อย
บนท้องถนนสายต่างๆของฉนวนกาซาที่ปกครองโดยฮามาส ประชาชนมุ่งหน้าไปยังร้านค้าและธนาคาร พยายามกลับมาใช้ชีวิตตามปกติตามหลังเหตุสู้รบยืดเยื้อนาน 7 สัปดาห์ ขณะที่อีกหลายพันคน ซึ่งหลบหนีไปพักพิงอยู่กับญาติๆหรือตามโรงเรียนต่างๆ ก็กลับสู่บ้านพัก แต่บางส่วนต้องพบว่ามันกลายเป็นเศษซากหักพังไปแล้ว
ในอิสราเอล เสียงไซเรนเตือนภัยจรวดจากกาซาเข้าสู่ภาวะเงียบสงัด แต่เหล่านักวิจารณ์ตามหน้าหนังสือพิมพ์เห็นพ้องกับสมาชิกบางส่วนภายในรัฐบาลผสมของนายเบนจามิน เนทันยาฮู ที่แสดงความผิดหวังต่อความเป็นผู้นำของเขาระหว่างเหตุความรุนแรงระหว่างรัฐยิวกับปาเลสไตน์ครั้งยืดเยื้อที่สุดในรอบทศวรรษ
"หลังผ่านพ้น 50 วันของสงคราม ซึ่งองค์กรก่อการร้ายเข่นฆ่าทหารและพลเรือนหลายสิบคน ทำลายกิจวัตรประจำวันและฉุดสถานะทางเศรษฐกิจของประเทศสู่ความยุ่งยาก เราคาดหวังอะไรที่มากกว่าถ้อยแถลงหยุดยิง" ไซมอน ชิฟเฟอร์ นักวิเคราะห์เขียนลงใน Yedioth Ahronoth หนังสือพิมพ์ขายดีที่สุดของอิสราเอล "เราอยากเห็นนายกรัฐมนตรีไปยังทำเนียบประธานาธิบดีและแจ้งกับเขาว่าขอลาออกจากตำแหน่ง"
"พวกเขากำลังเฉลิมฉลองกันในกาซา" อูซี ลันดาอู รัฐมนตรีจากพรรคขวาจัด ยิสราเอล เบเตยู ในรัฐบาลผสมของเนทันยาฮู ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุแห่งหนึ่ง พร้อมบอกว่าสำหรับอิสราเอลแล้ว ผลลัพธ์ของสงครามเศร้างหมองอย่างยิ่ง เพราะมันไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณเตือนที่เพียงพอที่จะปรามไม่ให้พวกฮามาสลงมือโจมตีอีกในอนาคต
ด้านนายนาฮูม บาร์เนีย หนึ่งในคอลัมนิสต์ยอดนิยมของอิสราเอล แสดงความกังวลว่าแทนที่จะเป็นการเปิดทางกำจัดภัยคุกคามจากกาซา "แต่เรากลับเปิดดส้นทางใหม่สำหรับภัยคุกคามรอบต่อไป ในเลบานอนหรือในกาซา" เขากล่าว "ชาวอิสราเอลตต้องการผู้นำ รัฐบุรุษที่รู้ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ใครบางคนที่ต้องตัดสินใจ เชื่อมต่อและพูดคุยกับประชาชนของเขาด้วยความจริงใจ แต่พวกเขาได้แค่โฆษกที่ออกมาพูดแค่บางครั้งบางคราวและไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น"
บนท้องถนนสายต่างๆของฉนวนกาซาที่ปกครองโดยฮามาส ประชาชนมุ่งหน้าไปยังร้านค้าและธนาคาร พยายามกลับมาใช้ชีวิตตามปกติตามหลังเหตุสู้รบยืดเยื้อนาน 7 สัปดาห์ ขณะที่อีกหลายพันคน ซึ่งหลบหนีไปพักพิงอยู่กับญาติๆหรือตามโรงเรียนต่างๆ ก็กลับสู่บ้านพัก แต่บางส่วนต้องพบว่ามันกลายเป็นเศษซากหักพังไปแล้ว
ในอิสราเอล เสียงไซเรนเตือนภัยจรวดจากกาซาเข้าสู่ภาวะเงียบสงัด แต่เหล่านักวิจารณ์ตามหน้าหนังสือพิมพ์เห็นพ้องกับสมาชิกบางส่วนภายในรัฐบาลผสมของนายเบนจามิน เนทันยาฮู ที่แสดงความผิดหวังต่อความเป็นผู้นำของเขาระหว่างเหตุความรุนแรงระหว่างรัฐยิวกับปาเลสไตน์ครั้งยืดเยื้อที่สุดในรอบทศวรรษ
"หลังผ่านพ้น 50 วันของสงคราม ซึ่งองค์กรก่อการร้ายเข่นฆ่าทหารและพลเรือนหลายสิบคน ทำลายกิจวัตรประจำวันและฉุดสถานะทางเศรษฐกิจของประเทศสู่ความยุ่งยาก เราคาดหวังอะไรที่มากกว่าถ้อยแถลงหยุดยิง" ไซมอน ชิฟเฟอร์ นักวิเคราะห์เขียนลงใน Yedioth Ahronoth หนังสือพิมพ์ขายดีที่สุดของอิสราเอล "เราอยากเห็นนายกรัฐมนตรีไปยังทำเนียบประธานาธิบดีและแจ้งกับเขาว่าขอลาออกจากตำแหน่ง"
"พวกเขากำลังเฉลิมฉลองกันในกาซา" อูซี ลันดาอู รัฐมนตรีจากพรรคขวาจัด ยิสราเอล เบเตยู ในรัฐบาลผสมของเนทันยาฮู ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุแห่งหนึ่ง พร้อมบอกว่าสำหรับอิสราเอลแล้ว ผลลัพธ์ของสงครามเศร้างหมองอย่างยิ่ง เพราะมันไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณเตือนที่เพียงพอที่จะปรามไม่ให้พวกฮามาสลงมือโจมตีอีกในอนาคต
ด้านนายนาฮูม บาร์เนีย หนึ่งในคอลัมนิสต์ยอดนิยมของอิสราเอล แสดงความกังวลว่าแทนที่จะเป็นการเปิดทางกำจัดภัยคุกคามจากกาซา "แต่เรากลับเปิดดส้นทางใหม่สำหรับภัยคุกคามรอบต่อไป ในเลบานอนหรือในกาซา" เขากล่าว "ชาวอิสราเอลตต้องการผู้นำ รัฐบุรุษที่รู้ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ใครบางคนที่ต้องตัดสินใจ เชื่อมต่อและพูดคุยกับประชาชนของเขาด้วยความจริงใจ แต่พวกเขาได้แค่โฆษกที่ออกมาพูดแค่บางครั้งบางคราวและไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น"