รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีโทมัส ทาบาเนแห่งเลโซโท ซึ่งต้องเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปลี้ภัยในประเทศเพื่อนบ้านอย่างแอฟริกาใต้ ออกโรงในวันเสาร์ (30 ส.ค.) กล่าวหากองทัพเลโซโททำการรัฐประหาร ขณะที่แอฟริกาใต้แถลงประณามการกระทำของกองทัพเลโซโท พร้อมเรียกร้องทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งนำสันติกลับคืน
ธาบาเน วัย 75 ปี ซึ่งก้าวขึ้นครองอำนาจในฐานะนายกรัฐมนตรีของราชอาณาจักรเลโซโท ตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2012 ออกมายืนยันว่าตัวเขาได้เดินทางเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้านอย่างแอฟริกาใต้แล้วในวันเสาร์ (30) เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัยของตนเอง หลังจากที่กองทัพเลโซโททำรัฐประหาร
“นี่คือการยึดอำนาจซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ขัดต่อหลักการประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง” ทาบาเนกล่าว พร้อมเผยว่าขณะนี้ตัวเขาอาศัยอยู่ที่บ้านพักของบุตรสาวในแอฟริกาใต้
รายงานข่าวระบุว่า มีเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะในช่วงเช้าตรู่วันเสาร์ (30) ในกรุงมาเซรู เมืองหลวงของเลโซโท ตามมาด้วยการที่ทหารส่งกำลังบุกเข้ายึดสถานที่สำคัญหลายแห่ง รวมถึงสำนักงานใหญ่ของกรมตำรวจเลโซโท ตลอดจนบ้านพักของธาบาเน และบุคคลสำคัญหลายราย
อย่างไรก็ดี หลังมีการยืนยันข่าวการยึดอำนาจของกองทัพเลโซโทถูกเผยแพร่ออกไป มีรายงานว่าเสียงปืนก็ได้สงบลงและกรุงมาเซรูได้กลายสภาพเป็นเมืองแห่งความเงียบสงัด แต่ยังคงไม่เป็นที่แน่ชัดว่าใครคือผู้ที่กุมอำนาจการบริหารประเทศที่เป็นบ้านของประชากรราว 2 ล้านคนในเวลานี้
ด้านเคลย์สัน มอนเยลา โฆษกกระทรวงต่างประเทศแอฟริกาใต้ ออกมาแถลงที่กรุงพรีทอเรีย โดยระบุว่ารัฐบาลแอฟริกาใต้ขอประณามการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลซึ่งไม่เป็นไปตามวิถีทางรัฐธรรมนูญในครั้งนี้
แหล่งข่าวทางการทูตในกรุงมาเซรูระบุว่า กองทัพเลโซโทซึ่งมีความภักดีต่อรองนายกรัฐมนตรีโมเทตจัว เม็ตซิง ประกาศจะจัดตั้งรัฐบาลผสมชุดใหม่เพื่อผลักดันการปฏิรูปและกวาดล้างการทุจริตในประเทศของตนซึ่งหลุดพ้นจากการเป็นอาณานิคมของสหราชอาณาจักรตั้งแต่ปี ค.ศ. 1966
ล่าสุด คามาเลช ชาร์มา เลขาธิการใหญ่กลุ่มประเทศเครือจักรภพ ออกคำแถลงที่มีเนื้อหาประณามการทำรัฐประหารในเลโซโท พร้อมระบุว่าเครือจักรภพมิอาจยอมรับได้ที่รัฐบาลซึ่งมาจากการเลือกตั้งต้องถูกโค่นอำนาจด้วยวิธีการที่ขัดต่อกฎหมาย