xs
xsm
sm
md
lg

“โตโยต้า” มั่นใจกำไรปีนี้ทุบสถิติ แม้ยังห่วงตลาดจีน-ญี่ปุ่น-ไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - “โตโยต้า” มั่นใจกำไรสุทธิตลอดปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 17,500 ล้านดอลลาร์ เช่นเดียวกับค่ายรถยนต์ร่วมชาติอย่าง “นิสสัน” และ “ฮอนด้า” ซึ่งต่างรายงานยอดขายเพิ่มขึ้นถ้วนหน้า อย่างไรก็ดี สำหรับช่วงครึ่งหลังของปีการเงินปัจจุบัน คาดหมายกันว่าผู้ผลิตญี่ปุ่นเหล่านี้จะต้องฝาฟันกับภาวะดีมานด์ชะลอตัวในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นที่ญี่ปุ่น, ไทย, หรือในจีน ซึ่งเป็นตลาดรถใหญ่ที่สุดของโลก

วันพุธที่ผ่านมา (5 พ.ย.) โตโยต้า มอเตอร์ บริษัทรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกสัญชาติญี่ปุ่น แถลงผลประกอบการโดยระบุว่า กำไรสุทธิช่วง 6 เดือนแรกของปีการเงินนี้ (เม.ย.-ก.ย. 2014) เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 1.13 ล้านล้านเยน จาก 1 ล้านล้านเยนในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่รายรับช่วงครึ่งปีดังกล่าวขยับขึ้น 3.3% เป็น 12.94 ล้านล้านเยน

โตโยต้ายังปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์กำไรสุทธิปีการเงินปัจจุบันให้เป็น 2 ล้านล้านเยน จากเป้าหมายเดิม 1.78 ล้านล้านเยน เช่นเดียวกับรายรับตลอดปีที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 26.5 ล้านล้านเยน จากที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ที่ 25.7 ล้านล้านเยน

การรายงานผลประกอบการของโตโยต้ามีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่นิสสัน มอเตอร์ ผู้เล่นหมายเลข 2 ในญี่ปุ่น เผยว่า กำไรสุทธิช่วงครึ่งปีการเงินปัจจุบันพุ่งขึ้น 25% อยู่ที่ 2,300 ล้านดอลลาร์ และค่ายรถอันดับ 3 ฮอนด้า มอเตอร์ แถลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า กำไรสุทธิรอบ 6 เดือนดังกล่าวเพิ่มขึ้นเกือบ 19% เป็น 2,670 ล้านดอลลาร์

อุตสาหกรรมยานยนต์ของญี่ปุ่นได้รับอานิสงส์จากนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ที่มาพร้อมมาตรการผ่อนคลายทางการเงินโดยทีมงานในธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ที่อาเบะคัดเลือกเองกับมือ ซึ่งเมื่อประกอบกันก็สามารถฉุดค่าเงินเยนอ่อนลงอย่างชัดเจนนับจากปีที่แล้ว

การอ่อนตัวของเยนส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกและเพิ่มมูลค่ากำไรจากต่างแดนที่ส่งกลับประเทศ แม้นักวิเคราะห์ชี้ว่า อานิสงส์ดังกล่าวเริ่มแผ่วลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาก็ตาม

มาซาฮิโร อากิตะ นักวิเคราะห์ของเครดิตสวิส ระบุว่า ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เงินเยนที่อ่อนค่าลงเป็นแรงส่งสำคัญ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ ปัจจัยอื่นนอกเหนือจากนั้นยังไม่มีการปรับตัวในแง่บวกเลยนับจากไตรมาสแรก ยิ่งกว่านั้น ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า อุปสงค์ในจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักของค่ายรถญี่ปุ่น จะดีขึ้นหรือแย่ลง

ทั้งนิสสันและฮอนด้าต่างเตือนว่ายอดขายในจีนกำลังชะลอตัว ขณะที่โตโยต้ารายงานว่ายอดขายลดลงทั่วเอเชีย รวมถึงไทยที่มีปัญหาความไม่สงบทางการเมืองก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ยอดขายรถญี่ปุ่นในแดนมังกรซึ่งเป็นตลาดรถใหญ่ที่สุดของโลก ตกฮวบในช่วงปลายปี 2012 จนถึงปีที่แล้ว จากข้อพิพาทเรื่องหมู่เกาะระหว่างญี่ปุ่นกับจีนที่นำไปสู่การต่อต้านสินค้าแดนปลาดิบ

ซ้ำร้ายเมื่ออุปสงค์ในจีนเริ่มกระเตื้องขึ้น แต่คู่แข่งอย่างเจเนอรัล มอเตอร์ส จากอเมริกา และโฟล์คสวาเก้นจากเยอรมนี ต่างพยายามฉกฉวยโอกาสจากความขัดแย้งทางการทูตด้วยการแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดไปจากค่ายรถชั้นนำสามแห่งของญี่ปุ่น

นอกจากนี้ ยังมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มอุตสาหกรรมรถยนต์โดยรวมในจีนที่เศรษฐกิจเริ่มคลายความร้อนแรงลง

คริสโตเฟอร์ ริชเตอร์ นักวิเคราะห์ด้านยานยนต์จากบริษัทโบรเกอร์ ซีแอลเอสเอในโตเกียว แสดงความเห็นว่า ขณะนี้ กระแสต่อต้านญี่ปุ่นอาจยังหลงเหลืออยู่ ดังนั้น ค่ายรถญี่ปุ่นโดยเฉพาะนิสสันจึงควรรับมือด้วยการปรับลดการผลิต

ริชเตอร์เสริมว่า แม้ตลาดรถญี่ปุ่นยังประสบปัญหา แต่สหรัฐฯกลับมีอนาคตสดใส ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับค่ายรถที่เน้นบุกตลาดเมืองลุงแซมอย่างฮอนด้าและนิสสัน

โตโยต้านั้นเผยว่า ยอดขายรอบครึ่งปีในญี่ปุ่นลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 1.03 ล้านคัน แต่เพิ่มขึ้นในอเมริกาเหนือและยุโรป

ค่ายรถเบอร์หนึ่งแห่งนี้ยังต้องรับมือกับผลพวงจากการขึ้นภาษีการขายในญี่ปุ่นเมื่อเดือนเมษายน ที่ส่งผลให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคญี่ปุ่นซบเซาลง หลังจากก่อนหน้านั้นคนนับล้านแห่ซื้อของใหญ่ก่อนที่ราคาจะขยับขึ้น นอกจากนี้ การเรียกรถกลับคืนมาซ่อมเป็นจำนวนมาก ยังเป็นอีกปัจจัยซึ่งทำให้ต้นทุนของบริษัทเพิ่มขึ้น

เดือนที่ผ่านมา สื่อมะกันรายงานว่า ทากาตะ ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ของญี่ปุ่น กำลังจะเจอกับการถูกฟ้องร้องหมู่ในอเมริกา จากกรณีถุงลมนิรภัยบกพร่องที่อาจทำให้ผู้ขับขี่หลายคนเสียชีวิต

ทากาตะเป็นซัปพลายเออร์รายใหญ่ของค่ายรถชั้นนำของโลกหลายแห่ง และปัญหานี้นำไปสู่การเรียกคืนรถหลายล้านคัน

วันพุธ โนบูโยริ โคดาอิระ รองประธานบริหารโตโยต้า แถลงแสดงความเสียใจและกังวลที่ทำให้ลูกค้าได้รับผลกระทบจากการเรียกคืนรถเพื่อเปลี่ยนถุงลมนิรภัยของทากาตะ แต่ไม่ได้เปิดเผยว่า ความสัมพันธ์ของบริษัทกับซัปพลายเออร์แห่งนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป

ทั้งนี้ โตโยต้าลดการคาดการณ์ยอดขายรถตลอดปีการเงินปัจจุบัน (เม.ย. 2014 - มี.ค. 2015) อยู่ที่ 9.05 ล้านคัน จาก 9.1 ล้านคัน แต่คงเป้าหมายยอดขายในปีปฏิทิน 2014 ไว้ที่ 10.22 ล้านคัน
กำลังโหลดความคิดเห็น