เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ อยู่ระหว่างสอบสวนบริษัท ทากาตะ ผู้ผลิตอะไหล่รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น หลังตรวจพบข้อบกพร่องในถุงลมนิรภัยที่บริษัทแห่งนี้ผลิตขึ้น จนนำมาสู่การเรียกคืนรถยนต์ถึง 7.8 ล้านคันในอเมริกา สื่อสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (22 ต.ค.)
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานว่า อัยการรัฐนิวยอร์กกำลังตรวจสอบว่า ทากาตะ ได้แจ้งข้อมูลอันทำให้ผู้ตรวจสอบสหรัฐฯ เข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับสภาพความปลอดภัยของถุงลมนิรภัยที่พวกเขาผลิตขึ้นหรือไม่
สำนักงานความปลอดภัยทางหลวงแห่งชาติสหรัฐฯ (National Highway Traffic Safety Administration - NHTSA) ซึ่งกำกับดูแลด้านความปลอดภัยยานพาหนะ ได้ออก “คำเตือนเร่งด่วน” ไปยังผู้ใช้รถยนต์ที่ติดตั้งถุงลมนิรภัยของทากาตะ ให้รีบนำรถไปแก้ไขความบกพร่องที่ผู้จัดจำหน่าย
ปัญหาที่พบส่งผลให้มีการเรียกคืนรถยนต์หลายล้านคัน เนื่องจากถุงลมนิรภัยที่บกพร่องอาจพองตัวไม่เหมาะสม และเกิดระเบิดจนทำให้เจ้าของรถยนต์ได้รับอันตรายจากเศษชิ้นส่วนที่แตก
ตามรายงานจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส มีเจ้าของรถยนต์ได้รับบาดเจ็บจากปัญหาถุงลมนิรภัยของทากาตะแล้วอย่างน้อย 139 ราย ในจำนวนนี้เกิดจากการระเบิด 37 กรณี และมีผู้เสียชีวิต 3 รายในรถยนต์ฮอนดาซึ่งใช้ถุงลมนิรภัยของ ทากาตะ
ข้อมูลจาก NHTSA ระบุว่า เฉพาะในสหรัฐฯ มีรถยนต์ประมาณ 7.8 ล้านคันจากค่ายรถ 10 บริษัทที่ต้องถูกเรียกคืนเนื่องจากปัญหาถุงลมนิรภัยของทากาตะ แต่หากนับรวมการเรียกคืนทั่วโลกก็จะไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคัน
NHTSA แถลงล่าสุดเมื่อวานนี้ (22) ว่า เจ้าของรถยนต์ที่เข้าข่ายเสี่ยงควรนำรถไปแก้ไขปัญหาถุงลมนิรภัยทันที โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตอากาศอบอุ่น หรือร้อน
พนักงานสอบสวนคาดว่า รถยนต์ที่ขับขี่อยู่ในสภาพความชื้นสูงมีความเสี่ยงที่ถุมลมนิรภัยจะระเบิดมากกว่า
รถยนต์ที่ได้รับผลกระทบจากการเรียกคืน ได้แก่ ฮอนด้า, บีเอ็มดับเบิลยู, ไครสเลอร์, ฟอร์ด, เจนเนอรัล มอเตอร์ส, มาสด้า, มิตซูบิชิ, นิสสัน, ซูบารุ และโตโยต้า โดยรุ่นที่พบปัญหานั้นมีทั้งฮอนด้า แอคคอร์ด ที่ผลิตระหว่างปี 2001-2007, โตโยต้า โคโรลล่า รุ่นปี 2002-2005 และฟอร์ด มัสแตง รุ่นปี 2005-2007 เป็นต้น