เอเอฟพี - ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกเมื่อวันจันทร์(13ต.ค.) เรียกร้องเหล่าประเทศเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก เพิ่มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของอีโบลา พร้อมเตือนว่าบางทีโลกทั้งใบอาจอยู่ในความเสี่ยง
ภูมิภาคดังกล่าวซึ่งมีประชากรอยู่กว่า 1,800 ล้านคน คือจุดอ่อนไหวต่อโรคติดต่อทั้งหลายแหล่ที่ปรากฏตัวขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นซาร์สและไข้หวัดนก แต่จนถึงตอนนี้ยังคงปลอดจากไวรัสอีโบลา ที่กำลังอาละวาดคร่าชีวิตผู้คนในแอฟริกาตะวันตก
"การแพร่ระบาดครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ความอ่อนแอของโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุขเอื้อต่อการแพร่ระบาดของจุลชีพก่อโรคที่มีอันตรายที่สุดชนิดหนึ่งบนโลกใบนี้ " ชาน บอกกับที่ประชุมประจำปีของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเวสเทิร์นแปซิฟิก
"ระบบเหล่านี้ไม่สามารถที่จะสร้างขึ้นมาได้ในระหว่างที่เกิดวิกฤต ตรงกันข้ามระบบกลับจะพังทะลายลงไปในท่ามกลางวิกฤต และเมื่อระบบสาธารณสุขทำงานไม่ได้ ย่อมหมายความว่าประชากรมีความยืดหยุ่นอยู่ในระดับเท่ากับศูนย์ เมื่อต้องเผชิญกับข่าวชวนช็อกต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นมา โดยที่ข่าวร้ายกำลังเกิดขึ้นถี่มากขึ้นและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อไวรัสมรณะที่น่ากลัวโจมตีความอัตคัดเหล่านี้และกระจายจนควบคุมไม่อยู่ ทั่วทั้งโลกก็ตกอยู่ในความเสี่ยง" ผู้อำนวยการอนามัยโลกกล่าวผ่านสุนทรพจน์ที่อ่านต่อที่ประชุม
มีผู้คนต้องสังเวยชีวิตให้แก่อีโบลาไปแล้วมากกว่า 4,000 ศพใน 7 ประเทศ นับตั้งแต่การแพร่ระบาดครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของไวรัสมรณะชนิดนี้เริ่มขึ้นในแอฟริกาตะวันตกช่วงต้นปี ขณะที่ภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตกขององค์การอนามัยโลกนั้น ประกอบไปด้วยประเทศและดินแดนต่างๆ 37 แห่ง ไม่ว่าจะเป็น จีน เหล่าชาติในเอเชียตะวันออกที่เหลือ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ บางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และรัฐหมู่เกาะต่างๆในแปซิฟิก
ด้าน ชิน ยังซู ผู้อำนวยการประจำภูมิภาค กล่าวถึงกรณีเชื้ออีโบลาอาจถูกนำเข้ามายังภูมิภาคแห่งนี้ ซึ่งมีประชากรราว 1 ใน 4 ของมนุษยชาติ ว่าการแพร่เชื้อมาถึงภูมิภาคนี้เป็นเรื่องที่เป็นไปได้อย่างแน่นอน เนื่องจากที่นี่เป็นศูนย์รวมการคมนาคม และเป็นเส้นทางการค้าและการเดินทางที่คึกคัก
"หากอีโบลามาถึงภูมิภาคนี้ ผลลัพธ์คงใหญ่หลวง เราต้องเผชิญหน้าความท้าทายนี้อย่างเปิดเผยเพื่อจัดการภัยคุกคามของโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ" เขากล่าว
ด้านประธานาธิบดีเบนีโญ อากีโน ของฟิลิปปินส์ เจ้าภาพจัดการประชุม กล่าวเปิดการประชุมองค์การอนามัยโลกนาน 5 วัน ยอมรับว่ามีโอกาสที่อีโบลาจะคุกคามประเทศของเขา เนื่องจากมีคนฟิลิปปินส์ถึง 10 ล้านคน ที่ทำงานและอาศัยอยู่ในต่างแดน