xs
xsm
sm
md
lg

อาถรรพ์ศุกร์ 13 กรกฎาคม เที่ยวบินดูไบ-กรุงเทพ เลื่อนไม่มีกำหนด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฝั่งขวาเจ้าพระยา
 
สมมติว่า รัฐบาลนี้ไม่ใช่รัฐบาลของ นช. ทักษิณ ชินวัตร ป่านนี้ บ้านเมืองคงปั่นป่วน วุ่นวาย ถึงขั้นจลาจล เผาบ้านเผาเมืองอีกครั้ง จากฝีมือของมวลชนคนเสื้อแดง ที่ถูกกรอกหู ปั่นหัว ให้โกรธแค้น ศาลรัฐธรรมนูญ ที่ระงับยับยั้งการฉีกรัฐธรรมนูญ 2550 ทั้งฉบับ เหมือน เมื่อเดือนมีนาคม 2553 ที่มีการล้มโต๊ะ การเจรจาระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับแกนนำ นปช. แล้ว เดินหน้าใช้ความรุนแรง ฆ่า และเผา เพื่อล้มรัฐบาล

ในครั้งนั้น นช. ทักษิณ ไม่ได้ประโยชน์อะไรจาก การเจรจา ที่นายอภิสิทธิ์ ยอมยุบสภา และกำหนดวันเลือกตั้ง ที่แน่นอน ชัดเจนแล้ว เช่นเดียวกับในครั้งนี้ ที่นช. ทักษิณ เป็นคนเดียว ที่เสียหายจาก คำวินิจฉัยของ ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที13 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เพราะ เป้าหมายที่จะเดินทางกลับบ้านอย่างเท่ๆ ไม่ต้องติดคุก ได้เงินคืน ต้องถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด

ที่เสียหายกว่านั้นคือ แผนการยึดอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ เอาศาลยุติธรรมมาอยู่ใต้ สภาฯ ยุบองค์กรอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลปกครอง เพิกถอนสิทธิของประชาชน ในการได้รับความคุ้มครอง ป้องกันผลกระทบจากการดำเนินโครงการขนาดใหญ่ ก็ต้องหยุดชะงักลง

ไพ่ทุกใบที่งัดออกมาเล่น กลายเป็นความสูญเปล่า ต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ ขณะเดียวกัน เล่ห์เหลี่ยม เพทุบาย ที่หมกเหม็ด ซ่อนไว้ ในเกมชำเรารัฐธรรมนูญ ก็ถูกเปิดโปง ตีแผ่ ให้ประชาชนได้รับรู้ เข้าใจอย่างถ่องแท้มากขึ้น ตลอดระยะเวลาสามเดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่ พรรคเพื่อไทย นำร่างแก้ไข รัฐธรรมนูญ 2550 เข้าสู่สภาฯ จนถึงวันที่ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยออกมา

ภายในระยะเวลาเพียงเดือนเศษ ๆ ฝันของ นช. ทักษิณ ที่จะกลับบ้านอย่างเท่ๆ ต้องฝันสลายติดๆกันถึงสองครั้ง นับจาก การผลักดัน ร่างกฏหมายปรองดอง ที่มีเป้าหมาย ยกเลิกความผิดกรณีทุจริต คอร์รัปชั่น ของตน ยกเลิกความผิด กรณีก่อการร้าย เผาบ้านเผาเมือง ของคนเสื้อแดง เมื่อต้นเดือนมิถุนายน ที่ถูกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ต่อต้าน จน สภาฯ ไม่สามารถเปิดประชุมได้ มาจนถึง ความพยายามในการฉีกรัฐธรรมนูญ 2550 ทิ้ง เพื่อลบล้างความผิดของตัวเอง ที่ศาลฎีกาพิพากษาไปแล้ว และเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจอธิปไตย ให้มีเพียงสองอำนาจสูงสุด คือ อำนาจนิติบัญญัติ และ อำนาจบริหาร ส่วนอำนาจตุลาการ ต้องอยู่ใต้อำนาจนิติบัญญัติ ประธานศาลฎีกา ต้องได้รับการโหวตจาก สภาฯ

ตามกำหนดการที่วางไว้เดิม การร่าง รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ร่างโดย สภาร่างรัฐธรรมนูญ จะเสร็จสิ้น มีผลบังคับใช้ ประมาณ เดือนพฤษภาคม 2556 ถึงเวลานั้น คดีต่างๆ ที่ นช. ทักษิณ ก่อไว้ ทั้งที่ศาลได้มีคำพิพากษาไปแล้ว และ ที่ยังค้างอยู่ในศาลอีกหลายคดี ก็จะถูกลบล้างไป เพราะ มาตรา 309 ที่รับรอง คำสั่ง ของ คมช.ทั้งหลาย ซึ่งรวมทั้งคำสั่งใน การตั้ง คตส. เพื่อดำเนินคดีกับ นช. ทักษิณ จะถูกยกเลิกไป ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ นช. ทักษิณ ก็จะกลับบ้านได้อย่างเท่ๆ ไม่ต้องติดคุก ได้เงิน 46,000 ล้านบาท คืน และสามารถกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงได้ หากต้องการ เพราะถือว่า ไม่เคยถูกยึดทรัพย์ อันเป็นข้อห้ามสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามรัฐธรรมนูญ 2550

แผนการทุกอย่างเดินหน้าไปด้วยดี รัฐสภากำลังจะลงมติ ให้ความเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ในวันที่ 5 มิถุนายน ที่มีคนไปยื่นเรื่องต่อ อัยการสูงสุด ให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้ เป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ ก็ถูกอัยการสูงสุด แข่แข็ง เก็บไว้ในตู้เย็น ดู แล้ว ไม่น่าจะมีปัญหา แต่แล้ว แผนการกลับบ้านอย่างเท่ๆ ก็พังทะลายลง เมื่อศาล รธน. รับคำร้อง และแจ้งให้ รัฐสภาฯ ระงับการลงมติ วาระ 3 ไว้ก่อน เพื่อรอการวินิจฉัยของ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมา พรรคเพือไทย และ แกนนำ นปช. ตกอยู่ในอาการมึนงงชั่วขณะ ไม่เข้าใจ นัยของคำวินิจฉัย มีแต่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคคนเดียว ที่ชื่นชมตุลาการศาลว่า เข้มแข็ง เป็นอิสระ ต่อเมื่อทำความเข้าใจกับนัยของคำวินิจฉันแล้ว ก็ยังไม่รู้ว่าจะเดินไปอย่างไร เพราะต้องรอใบสั่งจากดูไบเสียก่อน

ท่าทีของแกนนำ สมาชิกบางคน ที่บอกว่า ให้ลุย เดินหน้าลงมติวาระ 3 ต่อไป ไม่ต้องสนใจคำวินิจฉัย หรือ ให้ถอดถอน - ลดอำนาจตุลาการ ศาล รธน. นั้น เป็นการเล่นไปตามบทเท่านั้นเอง เพื่อรักษา ขวัญ กำลังใจของตัวเอง เพราะถ้ากล้าจริง ไม่ฟังคำวินิจฉัยศาล รธนซ. ก็คงลงมติวาระ 3 เรียบร้อยไปตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายนแล้ว

ความพยายามที่จะร่าง รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพื่อ นช. ทักษิณ ยังคงดำเนินต่อไป จะใช้วิธี ลงประชามติ ถามประชาชนว่า จะให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2550 ทั้งฉบับหรือไม่ หรือ ใช้วิธีแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 รายมาตรา ล้วนแต่ไม่เป็นประโยชน์กับ นช. ทักษิณ เพราะนอกจากจะต้องใช้เวลายืดเยื้อยาวนานแล้ว ยังไม่สามารถใช้วิธีการหลบๆ ซ่อนๆ แอบจับมือ สภาร่างรัฐธรรมนูญให้เขียน รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามที่ตัวเองต้องการ ตามแผนเดิมได้แล้ว แต่จะต้องเปิดเผยให้ชัดเจนว่า จะแก้มาตราไหน แก้อย่างไร ทำไมถึงแก้ และหากมีผู้เห็นว่า มีการกระทำอันเป็นการล้มล้างระบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข ก็สามารถใช้สิทธิตาม มาตรา 68 ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ทันที โดยไม่ต้องตีความว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจรับคำร้องหรือไม่ เพราะคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ข้อแรก ได้รับรองสิทธิของประชาชนในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญไว้อย่างชัดเจน

ผลแห่งคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จึงทำให้ กำหนดการกลับประเทศไทยอย่างเท่ๆ ของ นช. ทักษิณ ชินวัตร ต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดอีกครั้งหนึ่ง ทั้งๆที่อำนาจทุกอย่าง อยู่ในกำมืออย่างเบ็ดเสร็จ แต่ก็ยังไม่สามารถถอนชนักที่ปักหลัง เพื่อที่จะได้กลับบ้านได้ เพราะไม่สามารถเอาชนะอำนาจของความถูกต้องได้ 
กำลังโหลดความคิดเห็น