xs
xsm
sm
md
lg

บางโฉมศรีพังซ้ำ ทะลักเข้าลพบุรี รมว.เกษตรฯ คาดไม่กระทบ กทม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูมิภาค - ฝ่ายน้ำล้นบางโฉมศรีพังรอบ 2 ความยาว 6 เมตร ทำน้ำเจ้าพระยาไหลทะลักเข้าคลองเชียงรากไหลบ่าเข้าสู่อำเภอบ้านหมี่-ท่าวุ้ง เมืองลพบุรีอีกครั้ง รมว.เกษตรฯ คาดไม่กระทบ กทม.

มีรายงานข่าวจากประตูน้ำบางโฉมศรี ตำบลชีน้ำร้าย อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรีว่า หลังจากมีการซ่อมแซมประตูน้ำบางโฉมศรี ที่แตกเมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ได้ใช้ระยะเวลาในการซ่อมจนเสร้จไปเมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา จนสามารถปิดกั้นน้ำไม่ให้ไหลทะลักเข้าท่วมในพื้นที่เขตอำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี แต่ปรากฎว่าเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.วานนี้ (4 พ.ย.) ประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ที่บริเวณหูช้าง ได้พังชำรุดลงมาอีกครั้งโดยมีความยาวประมาณ 6 เมตร ทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลทะลักเข้าสู่คลองเชียงราก และเริ่มไหลบ่าเข้าสู่พื้นที่อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรีอีกครั้ง หลังจากที่น้ำในพื้นที่อำเภอบ้านหมี่ เริ่มลดลง เนื่องจากน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงกว่าระดับน้ำในคลองเชียงรากกว่า 2 เมตร

นายศิระ ศิริสูงเนิน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด (ปภ.) สิงห์บุรี กล่าวว่า หลังจากประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ที่บริเวณหูช้าง ชำรุดพังทะลายลงมาอีกครั้งทำให้น้ำไหลทะลักเข้าเพิ่มขึ้น 10 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งขณะนี้ถือว่าไม่ส่งผลกระทบที่รุนแรงมากนัก และหลังเกิดเหตุตนได้ประสานงานไปทางกรมชลประทาน ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาซ่อมแซมจุดที่พังแล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะซ่อมแซมได้แล้วเสร็จเมื่อไร

นายทวีป จูมั่น นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หัวไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี กล่าวว่า จุดที่ประตูระบายน้ำบางโฉมศรีพัง ในครั้งนี้อยู่ใต้ประตูน้ำบางโฉมศรี โดยเหตุเกิดขณะที่ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามหาราช กำลังทำการก่ออิฐปิดฝายน้ำล้น เพื่อกั้นน้ำไม่ให้ไหลผ่านเข้ามายังคลองเชียงราก แต่ได้เกิดพังลงมา

"ขณะนี้ทราบว่ามีการรายงานถึงนายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน เพื่อที่จะตัดสินใจว่าจะปิดกั้นไม่ให้น้ำทะลักเข้าบ้านหมี่ หรือจะเปิดให้น้ำบ่าเข้าคลองเชียงรากต่อไป"

นายศักดิพงษ์ ธรรมอาชวกุล ปลัดเทศบาลตำบลบางงา อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี กล่าวว่า น้ำที่ท่วมในพื้นที่อำเภอบ้านหมี่ และอำเภอท่าวุ้ง กำลังลดลงตามลำดับ แต่พอประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ได้พังชำรุดลงมาอีกครั้ง และทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลทะลักเข้ามาในพื้นที่อำเภอบ้านหมี่ และอำเภอท่าวุ้ง อีกครั้ง ก็จะต้องทำให้ชาวบ้านรับความเดือดร้อนรอบ 2 อีกอย่างแน่นอน

ด้านนางญาณิศา เพชรสัมฤทธิ์ นักวิชาการศาสนาชำนาญการ เปิดเผยว่า หลังจังหวัดนครสวรรค์น้ำลดลงในหลายพื้นที่ พบว่า วัด ศาสนสถาน เสียหายในพื้นที่ 9 อำเภอ จำนวน 189 แห่ง พระ เณร ได้รับความเดือดร้อนจำนวน 2,108 รูป เบื้องต้นจากการสำรวจพบว่า อาคารไม้สัก กำแพงวัด ศาลาเก่าแก่ ถนนเข้าวัด เสียหายจากน้ำที่ท่วมขังยาวนานจำนวนมาก โดยอำเภอชุมแสง วัดเสียหาย 49 แห่ง อำเภอเมือง 38 แห่ง อำเภอท่าตะโก 39 แห่ง อำเภอเก้าเลี้ยว 14 แห่ง อำเภอพยุหะคีรี 14 แห่ง อำเภอโกรกพระ 12 แห่ง อำเภอบรรพตพิสัย 8 แห่ง และอำเภอหนองบัว 4 แห่ง ทั้งนี้ ตัวเลขความเสียหายน่าจะไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า มาจากกระแสน้ำที่แรงขึ้น คิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าว จะไม่เพิ่มปริมาณให้กับน้ำใน กทม.เพราะทิศทางของน้ำมุ่งหน้าไปที่ จ.ลพบุรี และจ.พระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้ น้ำจะเข้าไปในทุ่งแทน ที่จะลงมาในแม่น้ำเจ้าพระยาโดยตรง
กำลังโหลดความคิดเห็น