เอเอฟพี - องค์การอนามัยโลกอัพเดทข้อมูลล่าสุดในวันศุกร์(10ต.ค.) ระบุยอดผู้เสียชีวิตจากอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก ทะลุ 4,000 คนแล้ว โดยเหล่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขคือกลุ่มบุคคลที่ต้องสังเวยชีพแก่ไวรัสมรณะชนิดนี้มากที่สุด ขณะที่กรณีพบผู้ติดเชื้อรายแรกในสเปนกำลังก่อความเดือดดาลแก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแดนกระทิงดุ ที่ถึงขั้นขว้างปาถุงมือแพทย์เข้าใส่รถยนต์ของนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจต่อแนวทางรับมืออีโบลาของรัฐบาล
องค์การอนามัยโลกระบุว่าจนถึงวันที่ 8 ตุลาคม มีผู้เสียชีวิตจากอีโบลาแล้ว 4,033 ราย จากผู้ติดเชื้อทั้งหมด 8,399 คนใน 7 ประเทศ หลังจากข้อมูลก่อนหน้านี้ตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 3,865 คนจากผู้ติดเชื้อทั้งหมด 8,033 คน
ในรายงานขององค์การอนามัยโลกได้จัดหมวดหมู่ประเทศที่ได้รับผลกระทบเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกได้แก่กินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของอีโบลาหนักหน่วงที่สุด ส่วนกลุ่มที่สอง ประกอบด้วยไนจีเรีย เซเนกัล สเปนและสหรัฐฯ ที่มีกรณีกักกันโรคบ้างเล็กน้อย
ไลบีเรีย คือชาติที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด โดยมีผู้เสียชีวิต 2,316 ราย จากผู้ติดเชื้อ 4,076 คน รองลงมาคือเซียร์ราลีโอน มีผู้ติดเชื้อ 2,950 ราย เสียชีวิต 930 คน ส่วนกินี จึดเริ่มต้นของการแพร่ระบาดในช่วงต้นปี พบผู้ติดเชื้อ 1,350 ราย เสียชีวิต 778 คน
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยังเป็นกลุ่มคนที่ต้องชดใช้แก่โรคระบาดร้ายแรงนี้มากที่สุด โดยเสียชีวิตไปแล้ว 233 คนจากเจ้าหน้าที่ที่ติดเชื้อทั้งหมด 416 คน
ที่ไนจีเรีย ตัวเลขผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 20 คนและเสียชีวิต 8 คนเช่นเดิม โดยองค์การอนามัยโลกบอกว่าจะประกาศให้เป็นดินแดนปลอดอีโบลาในวันที่ 20 ตุลาคม หากไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมอีก ส่วนที่อื่นๆนั้น สหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิต 1 รายและพบผู้ติดเชื้อ 1 คนในสเปน ขณะที่เซเนกัล จำนวนผู้ติดเชื้อยังอยู่ที่ 1 คน
ท่ามกลางความกังวลว่าไวรัสมรณะจะแพร่ระบาดออกนอกทวีปแอฟริกา เมื่อวันศุกร์(10ต.ค.) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสเปน ที่กำลังขุ่นเคืองต่อแนวทางการรับมือกับอีโบลาของรัฐบาล ได้โห่ไล่นายกรัฐมนตรีมาเรียโน ราฮอยและขว้างปาถุงมือแพทย์เข้าใส่รถยนต์ของเขาระหว่างที่ผู้นำรายนี้เดินทางมายังโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงมาดริด เพื่อเยี่ยมพยาบาลที่เป็นผู้ติดเชื้ออีโบลารายแรกในยุโรป
เหตุวุ่นวายครั้งนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่และพยาบาลของโรงพยาบาลกาลอสที่ 3 ออกมาชุมนุมประท้วงเรียกร้องให้ นายอะนา มาโต้ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ลาออกจากตำแหน่งหลังมีพยาบาลติดเชื้ออีโบลา โดยสหภาพแรงงานกล่าวหาว่ารัฐบาลพยายามหันเหกล่าวโทษว่าเป็นความบกพร่องของตัวพยาบาล ขณะที่พวกเขาเชื่อว่าต้นตอส่วนหนึ่งมาจากอุปกรณ์ในการป้องกันที่ไม่ได้มาตรฐาน
กระนั้นท่ามกลางเสียงโจษจันที่หนักหน่วงขึ้นต่อกรณีพยาบาลเทเรซา โรมีโร กลายเป็นบุคคลแรกที่ติดเชื้ออีโบลานอกแอฟริกาตะวันตก นายราฮอย ยืนยันว่าแทบไม่มีความเป็นไปได้เลยที่โรคติดต่อนี้จะแพร่ระบาดในสเปน