พยาบาลหญิงกลับจากเซียร์ราลีโอนมีไข้ ออสเตรเลียจับกักตัวหาเชื้ออีโบลา

เอเอฟพี - มีการสอบสวนโรคหญิงชาวออสเตรเลียรายหนึ่งในวันนี้ (9 ต.ค.) เพื่อดูว่าติดเชื้ออีโบลาหรือไม่ หลังจากที่เธอเดินทางกลับจากไปทำงานที่เซียร์ราลีโอนเป็นเวลาหนึ่งเดือน แล้วมีอาการเป็นไข้

เจเนต ยัง หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐควีนส์แลนด์ ระบุว่า พยาบาลอาสาสมัครกาชาด วัย 57 ปี คนหนึ่งเริ่มมีอาการเป็นไข้ในช่วงเช้าวันนี้ (9 ต.ค.) จึงได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลแครนส์ แล้วก็ถูกแยกตัวเพื่อสอบสวนโรค ตัวอย่างเลือดของเธอถูกนำขึ้นเครื่องบินเพื่อไปทดสอบที่บริสเบน คาดว่าจะรู้ผลในวันศุกร์ (10 ต.ค.)

“มีความเป็นไปได้ที่เธออาจจะติดเชื้อ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เรารับมือกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง” ยัง กล่าวพร้อมกับบอกด้วยว่า มีรายงานว่าตอนที่ทำงานอยู่ในเซียร์ราลีโอน ผู้หญิงคนนี้สวมอุปกรณ์ป้องกันตลอดเวลา

“เราไม่รู้ว่าเธอจะติดเชื้อหรือไม่ แต่เธอสัมผัสกับผู้คนที่ติดเชื้อ ระหว่างที่ทำงานในเซียร์ราลีโอน แล้วตอนนี้เธอก็มีไข้” ยัง กล่าว

ออสเตรเลียเคยพบผู้คนจำนวนหนึ่งที่แสดงอาการคล้ายติดเชื้ออีโบลา หลังจากไปเที่ยวแอฟริกา แต่สุดท้ายเมื่อทดสอบแล้ว คนเหล่านั้นก็ไม่ได้ติดเชื้อ

สื่อท้องถิ่นรายงานว่า หญิงผู้ถูกสอบสวนโรคในครั้งนี้ชื่อว่า ซูว-เอลเลน โคแวค เธอกลับมาออสเตรเลียเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ หลังจากนั้นเธอก็อยู่แต่ในบ้าน

การกระทำของพยาบาลอาสาหญิงรายนี้ สอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาลออสเตรเลีย ที่กำหนดให้คนที่มีโอกาสติดต่อสัมผัสกับผู้ป่วยอีโบลา ต้องเก็บตัวอยู่บ้านในช่วงเวลาฟักตัวของเชื้อไวรัส 21 วัน

“เธอทำทุกอย่างได้เหมาะสม เธอกลับเข้าประเทศ และก็ดูสมบูรณ์แข็งแรงดีในตอนนั้น ไม่แสดงอาการ ไม่มีไข้ จนกระทั่งเมือ่ช่วงเช้านี้เอง ที่เธอมีไข้เล็กน้อย แต่เธอไม่ได้ออกไปเพ่นพ่านตามชุมชนเลย เธอเก็บตัวอยู่บ้านตลอด ดังนั้นคนในชุมชนจึงไม่ต้องเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้” ยัง กล่าว

ข้อมูลล่าสุดขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า เชื้อไวรัสอีโบลาได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 3,865 ราย ทั้งยังมีผู้ติดเชื้ออีก 8,033 รายในปีนี้ ส่วนใหญ่จะอยู่ในไลบีเรีย เซียร์ราลีโอนและกินี

ด้านซีกโลกตะวันตกก็เริ่มที่จะกังวลเกี่ยวกับการติดเชื้อไวรัสอีโบลาแล้วเช่นกัน หลังจากที่มีผู้เสียชีวิตรายแรกในสหรัฐฯ รวมถึงมีผู้ติดเชื้อรายแรกในสเปน

ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย “โทนี แอ็บบอตต์” ได้ระบุว่า ประเทศของเขาจะทำทุกวิธีเพื่อป้องกันไม่ให้อีโบลาเข้ามาระบาดในแดนจิงโจ้

“มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่อีโบลาจะเข้ามาระบาดที่นี่ แต่ถึงกระนั้นเราก็ยังตรวจสอบทุกคนที่เข้าประเทศอย่างละเอียด ว่ามีใครเคยไปแอฟริกาตะวันตกบ้าง ซึ่งในทุกรัฐก็มีโรงพยาบาลที่มีการเตรียมพร้อมรับมือในกรณีที่เกิดมีผู้ติดเชื้ออีโบลา” แอ็บบอตต์กล่าว