เอเจนซีส์ - กองกำลังอาวุธ “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) เมื่อวันพฤหัสบดี (9 ก.ย.) สามารถบุกกลับเข้าไปยึดพื้นที่ราวหนึ่งในสามของเมืองโคบานี เมืองยุทธศาสตร์สำคัญในซีเรียที่ตั้งประชิดพรมแดนตุรกี ท่ามกลางการถล่มโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วงของพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ขณะที่ตุรกีปฏิเสธไม่เคลื่อนทหารเข้าไปช่วยกองกำลังชาวเคิร์ดในซีเรียซึ่งกำลังต่อสู้ต้านทานกลุ่มนักรบญิฮัดกลุ่มนี้ ถึงแม้ถูกกดดันจากนาโตและอเมริกา โดยที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) แถลงยอมรับว่า ลำพังการโจมตีทางอากาศยังไม่สามารถสกัดไอเอสจากการบุกยึดเมืองต่างๆ ได้
ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ได้โจมตีทางอากาศต่อนักรบกลุ่มไอเอส ทั้งภายในและรอบๆ เมืองโคบานี อย่างน้อย 2 ระลอกในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี หลังจากที่ปูพรมถล่มเกือบ 20 ระลอกวันอังคาร (7) และอีก 14 ระลอกในวันพุธ (8) โดยสามารถทำลายยานยนต์ติดอาวุธ คลังเสบียง ศูนย์บัญชาการ ศูนย์พลาธิการ และค่ายทหารที่ไอเอสยึดไว้ 8 แห่ง
อย่างไรก็ตาม ยังคงเกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือดบนถนนสายต่างๆ ในเมืองชายแดนของซีเรียแห่งนี้ ระหว่างกองกำลังไอเอสกับนักรบเคิร์ด ตั้งแต่ที่นักรบญิฮัดไอเอสบุกทะลวงฝ่าแนวต้านทานเข้าไปสู่พื้นที่หลายๆ ส่วนของตัวเมืองได้เมื่อตอนต้นสัปดาห์
รามี อับเดล เราะห์มาน ผู้อำนวยการซีเรียน อ็อบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์ส กลุ่มติดตามสถานการณ์ในซีเรียที่มีฐานอยู่ในอังกฤษ และอาศัยข้อมูลจากกลุ่มฝ่ายค้านรัฐบาลซีเรีย แถลงว่า เมื่อวันพุธ ไอเอสถอยร่นออกจากบางพื้นที่ในโคบานี หลังถูกถล่มทางอากาศอย่างหนัก ทว่า ไม่นานนักก็กลับตะลุยเข้าไปใหม่และล่าสุดยึดพื้นที่ 1 ใน 3 ของเมือง แม้ยังคงถูกพันธมิตรระดมโจมตีทางอากาศก็ตาม
ทั้งนี้ อเมริกาเริ่มการโจมตีทางอากาศต่อที่มั่นต่างๆ ของพวกไอเอสซึ่งอยู่ในอิรักตั้งแต่เมื่อเดือนสิงหาคม และถล่มที่มั่นไอเอสในซีเรียในเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยที่มี 5 ชาติอาหรับ และอีกหลายชาติตะวันตก เข้าร่วมเป็นพันธมิตร
กระนั้น ภายหลังการประชุมผู้บังคับบัญชาทหารเมื่อวันพุธ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้แถลงยอมรับว่าการเผด็จศึกไอเอสไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสัมฤทธิผลได้ชั่วข้ามคืน
ขณะเดียวกัน พล.ร.ต.จอห์น เคอร์บี โฆษกเพนตากอน สำทับว่า แม้ปฏิบัติการทางอากาศที่นำโดยอเมริกาสามารถโจมตีถูกเป้าหมายไอเอสได้ทุกครั้ง แต่หากปราศจากกองกำลังภาคพื้นดินที่มีประสิทธิภาพดำเนินการคู่ขนานกันไป ความสำเร็จในการโจมตีทางอากาศจะได้ผลเพียงจำกัด และไม่สามารถปกป้องโคบานีหรือเมืองอื่นๆ ได้
ขณะที่สถานการณ์ในโคบานีที่อยู่ติดกับชายแดนตุรกีตึงเครียดขึ้นตลอดเวลา ทางการอังการาจึงกำลังถูกกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ ให้เข้าแทรกแซงการสู้รบในเมืองดังกล่าวเพื่อป้องกันการสังหารหมู่ประชาชนโดยไอเอสที่ขึ้นชื่อเรื่องความเหี้ยมโหด
โอบามานั้นส่งพลเอกจอห์น อัลเลน นายทหารเกษียณอายุซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานการต่อสู้ไอเอสกับพวกชาติพันธมิตร และ เบรตต์ แมกเกิร์ค ผู้แทนการเจรจาในอิรัก เดินทางไปยังอังการาเพื่อบีบให้ตุรกีมีส่วนร่วมในกลุ่มพันธมิตรต่อต้านไอเอสมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม กระทั่งถูกกดดันอีกทางหนึ่งจาก เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาปกป้องแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่ก็เดินทางไปเยือนในวันพฤหัสบดี ทว่า เมฟลุต คาวูโซกลู รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกี ยืนยันหนักแน่นว่า อังการาจะไม่ส่งทหารภาคพื้นดินเข้าไปช่วยกองกำลังเคิร์ดในซีเรีย
สาเหตุหลักสืบเนื่องจากอังการากังวลว่า การกระทำดังกล่าวอาจกลายเป็นการช่วยเหลือสร้างความเข้มแข็งแก่ขบวนการแบ่งแยกดินแดนชาวเคิร์ดที่ต่อสู้กับรัฐบาลตุรกีมา 3 ทศวรรษ
นอกจากนี้ ตุรกียังต้องการให้ปฏิบัติการของกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยอเมริกา ขยายจุดมุ่งหมายครอบคลุมถึงการโค่นล้มประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย รวมทั้งเรียกร้องให้กำหนดเขตห้ามบินและพื้นที่กันชนในซีเรียส่วนที่ติดกับตุรกี ทว่าข้อเรียกร้องเหล่านี้ยังไม่ได้รับการตอบสนองจากทั้งวอชิงตันและนาโต ที่อังการาเป็นสมาชิกอยู่
การนิ่งเฉยของตุรกีนำไปสู่การประท้วงของกลุ่มผู้สนับสนุนเคิร์ดภายในประเทศตุรกีเอง ซึ่งได้เข้าปะทะกับตำรวจต่อเนื่อง 3 คืนซ้อนตั้งแต่วันจันทร์ (6) แม้กองทัพตุรกีประกาศเคอร์ฟิวใน 5 จังหวัดทางตะวันออกเฉียงใต้ก็ตาม โดยเมื่อวันพุธมีผู้เสียชีวิต 21 คนในอิสตันบูล อังการา และพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ที่มีชาวเคิร์ดเป็นชนกลุ่มใหญ่