เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัยขนส่งออสเตรเลียแถลงยืนยันวันนี้ (8 ต.ค.) ว่า ทีมค้นหาเที่ยวบิน MH370 ของสายการบิน “มาเลเซียแอร์ไลน์ส” ที่หายไปได้ย้ายจุดค้นหาลงไปทางใต้ ขณะที่ผลการวิเคราะห์ระลอกล่าสุด และการจำลองสถานการณ์ในช่วงสิ้นสุดการบินชี้ว่า อากาศยานลำนี้อาจควงสว่านลงสู่มหาสมุทรอินเดีย
ภายหลังที่โบอิ้งพร้อมผู้โดยสาร และลูกเรือ 239 คน ลำนี้หายไปนาน 7 เดือน สำนักงานความปลอดภัยขนส่งออสเตรเลีย (เอทีเอสบี) ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ในภารกิจค้นหาเครื่องบินลำนี้กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ พวกเขาได้ใช้การวิเคราะห์ที่กำลังดำเนินอยู่ เพื่อกำหนดจุดเริ่มภารกิจค้นหาใต้ทะเล
แม้ว่านานาชาติจะระดมกำลังกันออกค้นหาเครื่องบิน ที่อันตรธานหายไประหว่างออกเดินทางจากกรุงกัวลัมเปอร์ ลงไปยังกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 8 มีนาคมลำนี้ อย่างครอบคลุมแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววที่จะพบอากาศยานลำนี้
บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการบินนั้นแทบจะไม่มีข้อมูลใดๆ นอกจากการวิเคราะห์สัญญาณดาวเทียมที่ส่งมาจากตัวเครื่องบิน ซึ่งเป็นข้อมูลที่พวกเขาใช้กำหนดพื้นที่ค้นหา ในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาลนอกชายฝั่งทางภาคตะวันตกของออสเตรเลีย
พวกเขาเชื่อว่า มีโอกาสที่จะค้นพบเครื่องบินลำนี้มากที่สุดในเส้นโค้งที่ 7 ซึ่งเป็นจุดที่เครื่องบินลำนี้ส่งสัญญาณดาวเทียม “อำลา” เป็นครั้งสุดท้าย และคาดการณ์กันว่าเป็นเวลาที่เครื่องบินลำนี้ดิ่งลงมหาสมุทร
เอทีเอสบีแถลงในวันนี้ (8) ว่า เมื่อพิจารณาองค์ประกอบของการวิเคราะห์โดยทั้งหมดพบว่า อาจพบอากาศยานลำนี้ในจุดที่อยู่ใกล้กับเส้นโค้งดังกล่าว แม้ว่าจะห่างจากจุดที่เคยคิดไว้ลงไปทางใต้
รายงานของเอทีเอสบี เมื่อเดือนมิถุนายนระบุว่า ทีมค้นหาใต้น้ำมุ่งปฏิบัติภารกิจเหนือน่านน้ำที่เรียกว่า “โบรคเกน ริดจ์” ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเพิร์ธของออสเตรเลียไปทางตะวันตกกว่า 2,000 กิโลเมตร แต่จากผลการวิเคราะห์ล่าสุดชี้ว่า จุดที่มีความเป็นไปได้น่าจะอยู่ห่างลงไปทางใต้
เอทีเอสบี ระบุเพิ่มเติมว่า ในเวลานี้ยังมีการวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียม และจำลองสถานการณ์ก่อนเครื่องบินตกกันต่อไป จึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ค้นหาได้อีก
ทั้งนี้ บรรดาผู้เชี่ยวชาญได้กำหนดพื้นที่ค้นหาใต้น้ำจุดแรก โดยการวิเคราะห์การสื่อสาร และข้อมูลการบิน โดยในสัปดาห์นี้ได้ส่งเรือลำแรกออกไปเริ่มสแกนพื้นมหาสมุทรเพื่อตามหาเครื่องบินที่สูญหายแล้ว
ตอนนี้ เรือจีโอ ฟีนิกซ์ ซึ่งว่าจ้างโดยรัฐบาลมาเลเซียกำลังส่งอุปกรณ์ค้นหาใต้น้ำที่ใช้คลื่นโซนาร์ลงไปใต้มหาสมุทรอินเดีย โดยบรรดาผู้เชี่ยวชาญคาดหวังว่า อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงชิ้นนี้จะสามารถค้นหาซากเครื่องบินขนาดใหญ่ เช่น เครื่องยนต์ หรือลำตัวเครื่องบิน ขณะที่ในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้าจะมี เรือฟูโกร ดิสคัฟเวอรี และเรือฟูโกร อีเควเตอร์ มาเข้าร่วมภารกิจนี้ด้วย
