เอเจนซีส์ - ออสเตรเลียขยับเป้าหมายการค้นหาเครื่องบินโดยสารในเที่ยวบิน MH370 ลงไปทางใต้ หลังทบทวนผลการวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียมล่าสุด พร้อมกับย้ำว่าการสอบสวนสาเหตุเครื่องบินตกต้องรอไปก่อนจนกว่าจะค้นพบกล่องดำ นอกจากนี้รัฐบาลแดนจิงโจ้ยังลงนามบันทึกความเข้าใจกับมาเลเซีย เพื่อแบ่งปันความรับผิดชอบด้านการเงินในการค้นหาใต้น้ำเฟสต่อไปที่คาดว่าจะมีค่าใช้จ่าย 48 ล้านดอลลาร์และใช้เวลาหนึ่งปีเต็ม
ข้อมูลใหม่ๆ ที่เพิ่งได้รับมาบ่งชี้ว่าเครื่องบินโบอิ้ง 777 ลำนี้ “อาจจะเลี้ยวไปทางทิศใต้” เร็วกว่าที่เคยคิดกัน รองนายกรัฐมนตรีวอร์เรน ทรัสส์ ของออสเตรเลีย แถลงที่กรุงแคนเบอร์รา เมื่อวันพฤหัสบดี (28 ส.ค.)
“พื้นที่ค้นหายังคงเป็นพื้นที่เดิม แต่จากข้อมูลบางอย่างที่เรามีอยู่ในตอนนี้ บ่งชี้กับเราว่า พื้นที่เลยไปทางใต้อีกหน่อยหนึ่ง --มันยังคงอยู่ภายในพื้นที่ค้นหา ทว่าเลยไปอีกหน่อยทางทิศใต้-- นั่นแหละเป็นส่วนซึ่งมีความน่าสนใจเป็นพิเศษและควรให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ ภายในพื้นที่ค้นหาทั้งหมด” ทรัสส์บอก
เขาแจกแจงว่า ภายหลังที่เครื่องบินโบอิ้ง 777 ในเที่ยวบิน MH370 สูญหายไปจากจอเรดาร์ในวันที่ 8 มีนาคม เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินของมาเลเซียแอร์ไลน์ ได้พยายามใช้โทรศัพท์ผ่านดาวเทียมติดต่อกับนักบิน แม้จะติดต่อไม่สำเร็จ แต่จากการทบทวนผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างละเอียด ทำให้ช่วยในการบ่งชี้จุดที่เครื่องบินอยู่ในตอนนั้น ตลอดจนทิศทางที่มันกำลังเคลื่อนที่ไป ซึ่งออกมาว่าเครื่องบินอาจจะมุ่งลงใต้เร็วกว่าที่เคยคาดกันไว้ก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ทรัสส์ย้ำว่าพวกเจ้าหน้าที่สอบสวนยังคงเชื่อว่า MH370 ตกลงที่ไหนสักจุดหนึ่งบน “เส้นโค้งที่ 7” ของพื้นที่ค้นหา ซึ่งอุปกรณ์บนเครื่องบินลำนี้ได้ปล่อยสัญญาณออกมา “สัมผัสมือ” กับระบบดาวเทียมติดตามเป็นครั้งสุดท้ายก่อนสูญหาย
วันเดียวกันนั้น ทรัสส์ และเลียว เตียง ไหล รัฐมนตรีคมนาคมมาเลเซีย ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการร่วมมือเพื่อค้นหา MH370 ซึ่งกำลังเข้าสู่ขั้นตอนการค้นหาใหม่ที่มีต้นทุนสูง ซึ่งทั้งสองประเทศตกลงแบ่งปันความรับผิดชอบในเรื่องนี้ร่วมกัน
เที่ยวบินนี้หายไปอย่างลึกลับพร้อมกับผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน ซึ่ง 153 คนในจำนวนนี้เป็นพลเมืองจีน หลังออกนอกเส้นทางขณะกำลังบินจากกัวลาลัมเปอร์ มุ่งไปยังปักกิ่ง
เลียวเผยว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนชี้ว่า ความสำเร็จในการค้นหาซากเครื่องบินและกล่องดำใต้น้ำเป็นปัจจัยสำคัญต่อการคลี่คลายปริศนาการหายไปของ MH370 ซึ่งหากยังไม่พบสิ่งเหล่านี้ การสอบสวนหาสาเหตุเครื่องบินตกจะไม่สามารถดำเนินต่อไปได้
รัฐมนตรีคมนาคมแดนเสือเหลืองยังรับปากว่าจะรายงานความคืบหน้าในการค้นหาเมื่อได้รับข้อมูลใหม่ๆ
มาเลเซียนั้นในฐานะเป็นเจ้าของเครื่องบินซึ่งตกลงกลางทะเลหลวง จึงมีความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ในการสอบสวนสาเหตุเครื่องบินตก ขณะที่ออสเตรเลียรับผิดชอบการค้นหาในมหาสมุทรอินเดีย โดยที่เชื่อกันว่าบริเวณที่เครื่องบินตก น่าจะอยู่ห่างจากชายฝั่งด้านตะวันตกของแดนจิงโจ้ 1,800 กิโลเมตร
ฟูโกร เซอร์เวย์ บริษัทเนเธอร์แลนด์เป็นผู้ที่ชนะการประมูล ได้เป็นผู้รับเหมาทำงานค้นหา MH370 ใต้น้ำคราวนี้ ซึ่งจะเริ่มต้นในเดือนกันยายน โดยใช้เรือ 3 ลำๆ หนึ่งเป็นเรือของจีน ติดตั้งเรือดำน้ำขนาดเล็กพร้อมเครื่องสแกนโซนาร์ด้านข้าง เครื่องมือหยั่งความลึกชนิดใช้คลื่นเสียงสะท้อน และอุปกรณ์วิดีโอ
การค้นหากำหนดโฟกัสที่ภายในอาณาบริเวณ 60,000 ตารางกิโลเมตร โดยอาจใช้เวลา 1 ปี และมีค่าใช้จ่าย 48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ ก่อนเริ่มต้นการค้นหาใต้มหาสมุทร เรือ 2 ลำกำลังเร่งทำแผนที่ใต้น้ำในพื้นที่ค้นหาทั้งหมด โดยที่รองนายกรัฐมนตรีแดนจิงโจ้กล่าวว่า การทำแผนที่ใต้พื้นสมุทร ได้ค้นพบลักษณะเด่นๆ ทางภูมิศาสตร์หลายๆ อย่าง เป็นต้นว่า ได้พบภูเขาไฟใต้น้ำลูกใหม่ๆ ที่บางลูกสูงถึง 2,000 เมตร หรือในบางสถานที่พื้นทะเลมีความลึกเพียงแค่ 600 เมตรเท่านั้น ทว่า ไม่ห่างจากตรงนั้นเท่าใดนักพื้นสมุทรกลับดิ่งลึกลงจนถึงระดับ 6,600 เมตรทีเดียว เหล่านี้ก็ชี้ให้เห็นถึงความยากลำบากที่ทีมค้นหาใต้น้ำต้องเผชิญในคราวนี้
ทางด้าน เหอ เจี้ยนจง รัฐมนตรีช่วยคมนาคมจีน ที่ร่วมประชุมในกรุงแคนเบอร์ราด้วย เผยว่า รัฐมนตรีจากทั้งสามประเทศเห็นพ้องว่า การค้นหาจะต้องไม่ถูกขัดจังหวะหรือยกเลิก และยังมีความมั่นใจว่า จะสามารถค้นพบ MH370 ในที่สุด