เอเจนซีส์ – ออสเตรเลียเชื่อเที่ยวบิน MH370 ของมาเลเซียใช้ระบบควบคุมการบินอัตโนมัติขณะที่เชื้อเพลิงหมดและตกลงสู่มหาสมุทรอินเดีย พร้อมกันนี้ยังมีการประกาศพื้นที่ค้นหาใหม่ โดยขยับลงทางใต้มากขึ้นในบริเวณที่เครื่องบินติดต่อกับดาวเทียมเป็นครั้งสุดท้าย โดยปฏิบัติการค้นหาครั้งใหม่จะเริ่มต้นในเดือนสิงหาคมนี้ กำหนดแล้วเสร็จภายใน 1 ปี และคาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกอย่างน้อย 56 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่สอบสวนยังคงพยายามไขปริศนาการหายสาบสูญของเที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส (MAS) ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม พร้อมกับผู้โดยสารและลูกเรือรวม 239 คน โดยที่การค้นหาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาในมหาสมุทรอินเดียคว้าน้ำเหลวโดยสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดกลุ่มผู้เชี่ยวชาญได้ทบทวนข้อมูลที่มีทั้งหมด และ วอร์เรน ทรัสส์ รองนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย จัดแถลงข่าววันนี้ (26) ว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่ MH370 จะใช้ระบบควบคุมการบินอัตโนมัติ (Autopilot) ขณะตก เพราะไม่เช่นนั้นเครื่องบินจะไม่สามารถบินในเส้นทางที่ข้อมูลจากดาวเทียมบ่งชี้ได้อย่างเป็นระเบียบ
มาร์ติน โดแลน กรรมาธิการสำนักงานความปลอดภัยด้านการขนส่งของออสเตรเลียที่เป็นแกนนำการค้นหา ขานรับโดยแสดงความมั่นใจว่า MH370 ใช้ระบบควบคุมการบินอัตโนมัติระหว่างอยู่เหนือมหาสมุทรอินเดียกระทั่งเชื้อเพลิงหมด
เที่ยวบินนี้เดินทางออกจากกัวลาลัมเปอร์และมุ่งหน้าสู่กรุงปักกิ่ง แต่หายไประหว่างทาง สร้างความตกตะลึงพรึงเพริดไปทั่วโลก ขณะที่ครอบครัวผู้ที่อยู่บนเครื่องยังคงโศกเศร้าและไม่เข้าใจว่า เกิดอะไรขึ้นกับบุคคลเหล่านั้น
แม้นานาชาติโดยการนำของออสเตรเลียร่วมกันค้นหาทั้งบนผิวน้ำและใต้มหาสมุทรอินเดียในบริเวณที่มาเลเซียเชื่อว่าเป็นจุดตก ทว่ายังไม่พบร่องรอยใดๆ ทั้งสิ้น
มีการตั้งสมมติฐานมากมายเกี่ยวกับชะตากรรมของ MH370 ทั้งการจี้เครื่องบิน นักบินยึดเครื่อง หรือเครื่องยนต์ล้มเหลว
กระนั้น จากการตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดอีกครั้ง ทีมค้นหาได้ระบุพื้นที่ค้นหาใหม่ครอบคลุมอาณาบริเวณ 60,000 ตารางกิโลเมตรทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย
ทรัสส์ ชี้แจงว่า ผู้เชี่ยวชาญได้วิเคราะห์ข้อมูลการสื่อสารผ่านดาวเทียม ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เบื้องต้นเพื่อติดตามร่องรอยของเครื่องบินมาก่อน รวมทั้งใช้ระบบคำนวณที่มีความซับซ้อนสูง อันนำไปสู่การระบุพื้นที่ค้นหาใหม่ซึ่งยังคงมุ่งที่เส้นโค้งที่ 7 ซึ่งเป็นบริเวณที่ MH370 ติดต่อกับดาวเทียมครั้งสุดท้าย แต่ขยับลงทางใต้มากขึ้น
พื้นที่ค้นหาใหม่อยู่ห่างจากด้านตะวันตกของเพิร์ทประมาณ 1,800 กิโลเมตร และเคยทำการค้นหาทางอากาศมาแล้วก่อนหน้านี้ ทว่าไม่พบซากเครื่องบินแต่อย่างใด
ทรัสส์ ค่อนข้างมั่นใจว่า บริเวณดังกล่าวมีแนวโน้มมากที่สุดว่าจะเป็นจุดที่เครื่องบินตก
ที่ผ่านมา ปฏิบัติการค้นหาอย่างละเอียดด้วยเรือดำน้ำขนาดเล็กอัตโนมัติเกิดขึ้นบริเวณห่างจากชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงเหนือของออสเตรเลียราว 1,600 กิโลเมตร เนื่องจากมีการตรวจพบสัญญาณ ping ที่เชื่อว่ามาจากกล่องดำของเครื่องบินในเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ทว่าหนึ่งเดือนหลังจากนั้น ทีมค้นหายอมรับว่า บริเวณดังกล่าวไม่ใช่จุดตกของ MH370 แม้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า สัญญาณที่ตรวจจับได้มีแหล่งที่มาจากที่ใดก็ตาม
สำหรับขณะนี้ เรือจีน 1 ลำและเรือจากบริษัทวิศวกรรมเนเธอร์แลนด์ ฟูโกร อีก 1 ลำ กำลังเร่งทำแผนที่ใต้น้ำบริเวณค้นหาใหม่ ซึ่งบางจุดลึกกว่า 5,000 เมตร โดยจะเริ่มการค้นหาใต้น้ำครั้งใหม่ในเดือนสิงหาคม คาดว่าต้องใช้เวลา 12 เดือน และค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 56 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งขณะนี้ปฏิบัติการค้นหา MH370 ถือเป็นการค้นหาเครื่องบินสูญหายที่มีราคาแพงที่สุดในประวัติศาสตร์การบินโลก
