เอเอฟพี - ภารกิจค้นหาจุดตกของเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 เผชิญอุปสรรคจากคลื่นลมในมหาสมุทรที่รุนแรงจนไม่สามารถดำเนินการค้นหาได้ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา และคาดว่าจะต้องยืดเวลาต่อไปจนถึงเดือน ส.ค.จึงจะยุติการค้นหาได้
ทางการออสเตรเลียรับบทผู้นำในการค้นหาโบอิ้ง 777 ซึ่งคาดว่าได้ตกลงสู่มหาสมุทรอินเดียตอนใต้เมื่อ 2 ปีก่อน แต่สภาพอากาศที่เลวร้ายในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ทำให้เรือค้นหา 3 ลำยังไม่สามารถออกปฏิบัติหน้าที่ได้
“สภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยส่งผลต่อปฏิบัติการค้นหาอย่างมาก ช่วง 4 สัปดาห์มานี้เรายังไม่สามารถส่งเรือออกไปค้นหาได้เลย” สำนักงานความปลอดภัยขนส่งออสเตรเลีย (ATSB) ระบุในรายงานล่าสุด
“เราคาดว่าคงจะต้องใช้เวลาถึงเดือนสิงหาคมจึงจะค้นหาได้ครอบคลุมพื้นที่ 120,000 ตารางกิโลเมตร แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในช่วง 2-3 เดือนหน้า ซึ่งอาจจะเลวร้ายลงกว่านี้ก็ได้”
ทีมค้นหาได้ตรวจสอบร่องรอยบนพื้นที่ทะเลไปแล้วทั้งสิ้น 105,000 ตารางกิโลเมตร จากพื้นที่ที่กำหนดไว้ทั้งหมด 120,000 ตารางกิโลเมตร แต่ก็ยังไม่พบซากเครื่องบิน
ออสเตรเลีย จีน และมาเลเซีย ซึ่งเป็น 3 ชาติที่สูญเสียพลเมืองไปพร้อมกับโศกนาฏกรรม MH370 มากที่สุด เห็นพ้องกันว่า หากสำรวจตามพื้นที่ที่กำหนดไว้แล้วยังไม่พบเครื่องบินที่หายไป การค้นหาก็จะยุติลงแต่เพียงเท่านั้น
แม้จะผ่านไปนานกว่า 2 ปี แต่โลกยังไม่อาจคลี่คลายปริศนาการหายสาบสูญของเที่ยวบิน MH370 ซึ่งพาผู้โดยสารและลูกเรือ 239 ชีวิตออกเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์เพื่อไปยังกรุงปักกิ่งเมื่อกลางดึกของวันที่ 8 มี.ค. ปี 2014
จนถึงขณะนี้มีการค้นพบเศษซากเครื่องบินรวม 8 ชิ้นที่คาดว่าจะเป็นชิ้นส่วนจาก MH370 ที่ถูกกระแสน้ำพัดพาไปไกลหลายพันกิโลเมตรจากชายฝั่งตะวันตกของออสเตรเลีย ในจำนวนนี้มีเพียง 5 ชิ้นที่ระบุได้แน่นอนแล้วว่ามาจากโบอิ้ง 777 ส่วนอีก 3 ชิ้นที่เพิ่งพบเมื่อเดือนที่แล้วยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ