xs
xsm
sm
md
lg

ฮ่องกงปรามม็อบอย่ายึดอาคารราชการ หลัง “ปักกิ่ง” ประกาศหนุนผู้ว่าฯ เต็มที่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



เอเจนซีส์ - สถานการณ์ในฮ่องกงตึงเครียดหนักในวันพฤหัสบดี (2 ต.ค.) หลังทางการเรียกร้องผู้ประท้วงให้ยุติการปิดกั้นบริเวณศูนย์กลางนครแห่งนี้ในทันที พร้อมกับระบุว่าหากพยายามเข้ายึดอาคารของทางราชการตามที่ข่มขู่ไว้ ก็จะเผชิญการตอบโต้อย่างเด็ดเดี่ยวและหนักแน่น นอกจากนี้นี้ยังมีคลิปเผยให้เห็นตำรวจเสริมกำลังรวมทั้งขนลังที่น่าจะเป็นกระสุนยางและแก๊สน้ำตาเข้าไปในศูนย์ราชการ ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์ที่เป็นกระบอกเสียงของปักกิ่ง ประกาศสนับสนุนและแสดงความเชื่อมั่นว่า ผู้ว่าการและตำรวจฮ่องกงสามารถจัดการกับการประท้วง “ผิดกฎหมายได้”

พวกผู้ประท้วงซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนวัยหนุ่มสาว ได้เรียกร้องให้ เหลียง ชุนอิง ลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกงภายในเที่ยงคืนวันพฤหัสบดี (2) และขู่ว่าจะเข้ายึดอาคารต่างๆ ของรัฐบาลหากเขาไม่ยินยอม

ขณะที่ตำรวจซึ่งได้ยิงสเปรย์พริกไทยและแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ชุมนุมประท้วงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ยุติความพยายามที่จะ “ขอคืนพื้นที่” ตั้งแต่วันจันทร์ (29 ก.ย.) และยิ่งในวันพุธ (1 ต.ค.) กับวันพฤหัสบดี (2) เป็นวันหยุดราชการเนื่องในวันชาติจีนด้วยแล้ว การชุมนุมของผู้ประท้วงก็กระทำได้อย่างสงบและคึกคัก โดยที่ในช่วงเย็นวันพฤหัสบดีนั้น มีผู้คนจำนวนมากมายเข้าร่วมทำให้ย่านต่างๆ บริเวณใจกลางฮ่องกงถูกปิดตาย

อย่างไรก็ตาม ทางการฮ่องกงออกคำแถลงในตอนบ่ายวันพฤหัสบดีว่า เนื่องจากข้าราชการราว 3,000 คนจะต้องกลับเข้าทำงานตามปกติในวันศุกร์ (3) ดังนั้นจึงขอให้ผู้ที่ชุมนุมอยู่หน้าสำนักงานตำรวจ ที่ทำการรัฐบาลกลาง และที่ทำการผู้บริหารเขตปกครองฮ่องกง ยุติการกีดขวางทางเข้า-ออกและสลายการชุมนุมอย่างสงบในทันที

ก่อนหน้านั้น ตำรวจได้มีการเสริมกำลังที่บริเวณด้านอนกของศูนย์ราชการ รวมทั้งได้ขนลังไม้และลำกล้องโลหะฝ่าด่านผู้ชุมนุมที่พยายามกีดขวางเข้าสู่ไปในอาคาร โดยคลิปที่เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียและทีวีเผยให้เห็นตัวอักษรบนลังซึ่งทำให้สันนิษฐานกันว่า สิ่งที่อยู่ภายในคือกระสุนยาง และแก๊สน้ำตา

สตีฟ ฮุย โฆษกสำนักงานตำรวจฮ่องกงแถลงว่า การขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ร้ายแรง อีกทั้งอาจทำให้อาชญากรฉวยโอกาสจากสถานการณ์นี้ และทำให้ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองถูกบ่อนทำลาย

ทางด้านแอนดริว ชัม สมาชิกกลุ่มอ็อกคิวพาย เซ็นทรัล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแกนนำการประท้วงคราวนี้ แสดงความกังวลว่าตำรวจอาจใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมในคืนวันพฤหัสบดี และว่าแกนนำกำลังหารือกันว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร

ขณะที่ สหพันธ์นักศึกษาฮ่องกง แกนนำอีกส่วนหนึ่งของการประท้วงได้เรียกร้องให้ประชาชนออกมาล้อมอาคารรัฐบาลเพิ่มมากขึ้นอีกตั้งแต่วันศุกร์ จนกว่าทางการจะยินยอมทำตามข้อรียกร้องของผู้ประท้วง

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวรัฐบาลฮ่องกงซึ่งใกล้ชิดกับผู้ว่าการเหลียงรายหนึ่ง ระบุว่า เหลียงเตรียมที่จะเล่นเกมยาว โดยจะเข้าแทรกแซงต่อเมื่อเกิดการปล้นสะดมหรือความรุนแรงเท่านั้น

“ถ้าไม่มีสถานการณ์ปั่นป่วนวุ่นวายอะไรขึ้นมา เราก็จะไม่ส่งตำรวจปราบจลาจลเข้าระงับเหตุ … เราหวังว่าสถานการณ์เช่นนั้นจะไม่เกิดขึ้น” แหล่งข่าวรายนี้บอก “เราจะต้องจัดการกับเรื่องนี้อย่างสันติ ถึงแม้มันอาจจะกินเวลาเป็นอาทิตย์ๆเป็นเดือนๆ ก็ตาม”

สำหรับทางการจีนนั้น ในวันพฤหัสบดี หนังสือพิมพ์เหรินหมินรึเป้า (พีเพิลส์ เดลี่) ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้เผยแพร่บทบรรณาธิการในหน้า 1 เตือน “เหตุการณ์ปั่นป่วนวุ่นวาย” ในฮ่องกง พร้อมกับแสดงการสนับสนุนเหลียงและตำรวจฮ่องกงในการรับมือกับการประท้วง

บทบรรณาธิการดังกล่าวระบุว่า รัฐบาลกลางเชื่อมั่นเต็มที่และพอใจมากกับผลงานของเหลียง รวมทั้งสนับสนุนตำรวจฮ่องกงที่ก่อนหน้านี้ถูกวิจารณ์หนักว่า ใช้ความรุนแรงกับผู้ประท้วงนั้น ในการจัดการกับกิจกรรมผิดกฎหมาย

ข้อเขียนชิ้นนี้ยังระบุว่า จำเป็นต้องปกป้องหลักนิติธรรมเพื่อให้การพัฒนาประชาธิปไตยและการเมืองเป็นไปอย่างเข้มแข็ง

บทบรรณาธิการชิ้นนี้ออกมาหนึ่งวันหลังจากที่รัฐมนตรีต่างประเทศ หวัง อี้ ของจีน เตือนอเมริกาไม่ไว้หน้าว่า อย่ามาแทรกแซงกิจการภายในของจีน

“ทุกประเทศควรเคารพอธิปไตยของจีน เพราะนี่คือหลักการพื้นฐานในการจัดการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ” หวัง อี้ บอกกับจอห์น เคร์รี่ เมื่อวันพุธระหว่างร่วมแถลงข่าวที่วอชิงตัน โดยที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ตอบว่า ทางการฮ่องกงควรใช้ความอดกลั้นและเคารพสิทธิในการแสดงความคิดเห็นอย่างสงบของผู้ประท้วง

นักวิเคราะห์บางคน เป็นต้นว่า วิลเลียม ลัม นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยจีนในฮ่องกง มองว่า ไม่มีแนวโน้มที่เหลียงจะยอมลาออก เนื่องจากจะถือเป็นการเสียหน้าอย่างมากสำหรับปักกิ่ง

อย่างไรก็ดี ลัมสำทับว่า หากการประท้วงยืดเยื้อและส่งผลกระทบต่อฮ่องกง จะเพิ่มความกดดันให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนต้องออกมาจัดการเรื่องนี้ ซึ่งอาจรวมถึงการปลดเหลียง
กำลังโหลดความคิดเห็น