เซาท์ไชน่า มอร์นิงโพสต์รายงาน (24 ก.ย.) ว่า นักศึกษาหลายร้อยคนได้เคลื่อนขบวนออกจากพื้นที่ชุมนุมประท้วงในเขตแอดมิรัลตี้ ไปยังที่ทำการรัฐบาลฮ่องกง ในเขตเซนทรัลแล้วเมื่อวานนี้ (24 ก.ย.) หลังไม่ได้รับคำตอบจากนายเหลียงเจิ้นอิ่ง ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง กับข้อเรียกร้องให้ทบทวนอำนาจการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ของประชาชน
รายงานข่าวกล่าวว่า ม็อบนักศึกษาที่ปักหลังอยู่ในสวนสาธารณะทามาร์ ได้เคลื่อนขบวนออกจากพื้นที่ชุมนุมไปยังทำเนียบรัฐบาลฮ่องกงเมื่อคืนนี้ หลังเลยกำหนดเส้นตายให้ผู้ว่าฯ ฮ่องกง ยอมรับการเลือกตั้งอิสระโดยประชาชนในปีพ.ศ. 2560
นักศึกษาหลายพันคนได้หยุดเรียนเป็นวันที่สามแล้ว เพื่อชุมนุมประท้วงรัฐบาลจีน และจัดกิจกรรมรวมทั้งบรรยายวิชาเรียนบนเวทีประท้วงกันอย่างต่อเนื่อง และคืบหน้าล่าสุด ยังได้แบ่งกลุ่มราว 700 คน เพื่อเดินออกจากพื้นที่ชุมนุมไปปิดทำเนียบรัฐบาล อันเป็นปฏิบัติการกดดันล่าสุด
อเล็กซ์ โจว หยง-คัง เลขาธิการทั่วไป สหพันธ์นักศึกษาฮ่องกง กล่าวเมื่อคืนนี้ว่า "ถ้านายเหลียง เจิ้นอิ่ง ไม่ยอมออกมาพบกับเราในวันนี้ (พุธ 24 ก.ย.) เขาก็คงไม่ออกมาพบเราในวันพฤหัสฯ เมื่อเป็นเช่นนี้ ขอให้พวกเรายกระดับการชุมนุม เพื่อกดดันรัฐบาล และถือเป็นการออกไปกระจายประกาศให้สังคมรับรู้กันทั่วถึงเป้าหมายการชุมนุมของพวกเรา"
โจว ยังกล่าวว่า ถ้ายังกดดันไม่พอ ก็จะขอขยายระยะเวลาการชุมนุมยืดเยื้อต่อไปอีก
คาร์ดินัล โจเซฟ เซิน เจอ-เควียน กล่าวว่า ประชาธิปไตยคือการมีส่วนร่วมของประชาชน การที่รัฐบาลไม่ยอมให้ประชาชนมีส่วนร่วมเสนอผู้เลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ ก็ย่อมแสดงว่ารัฐบาลไม่ไว้ใจประชาชน
รายงานข่าวกล่าวว่า การยกระดับเคลื่อนม็อบออกจากจุดชุมนุมครั้งนี้ กระทำโดยพลการ ไม่เสนอเรื่องต่อเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นฯ ขณะที่ตามกฎหมายนั้น การชุมนุมที่มากกว่า 50 คน และการเดินขบวนที่มีผู้ร่วมมากกว่า 30 จำเป็นต้องได้รับการเห็นชอบเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางเจ้าหน้าที่ฯ ดังนั้น การเดินขบวนไปยังเขตเซนทรัลครั้งล่าสุดนี้ ซึ่งมีผู้ร่วมกว่า 700 คนจึงเป็นการเดินขบวนที่ขัดกฎหมาย
ทั้งนี้ นักศึกษาส่วนใหญ่ กว่า 5,000 คน ยังคงปักหลักอยู่ในสวนสาธารณะทามาร์ เขตแอดมิรัลตี้ ตลอดคืน
ด้านเบนนี ไท่ยั่วกิง ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มอ๊อคคิวพาย กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่ชาวฮ่องกงต้องเสียสละออกมากันให้มาก และแย้มว่าสัปดาห์หน้าจะได้เห็นมหาชนเนืองแน่นเขตเซนทรัล