เอเจนซีส์ - ผู้เรียกร้องประชาธิปไตยนับหมื่นเมินคำขอร้องของทางการที่ให้ยุติการชุมนุมทันที แต่กลับขยายเข้ายึดถนนหลายสายในฮ่องกง ตุนเสบียง และสร้างแนวป้องกันชั่วคราว เตรียมพร้อมรับการทวงคืนพื้นที่ของตำรวจเพื่อจัดงานฉลองวันชาติจีนในวันพุธ (1 ต.ค.) ซึ่งก็เป็นกำหนดเส้นตายที่ผู้นำประท้วงเรียกร้องให้ผู้ว่าการฮ่องกงลาออก รวมทั้งมอบประชาธิปไตยที่แท้จริงให้แก่ประชาชน มิฉะนั้นจะยกระดับการประท้วงขึ้นไปอีก
ตำรวจปราบจลาจลได้ยิงสเปรย์พริกไทยและแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทว่าได้ถอนกำลังออกไปตั้งแต่วันจันทร์ (29 ก.ย.) และถึงช่วงคืนวันอังคาร (30 ก.ย.) บรรยากาศการชุมนุมเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย โดยตำรวจถอนกำลังออกจากย่านแอดมิรัลตีเกือบหมด ยกเว้นโดยรอบอาคารที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นฮ่องกง
ในวันก่อนหน้าวาระเฉลิมฉลองพรรคคอมมิวนิสต์จีนสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนขึ้นในวันที่ 1 ตุลาคมของเมื่อปี 1949 มีผู้คนจำนวนมากได้หลั่งไหลเข้าไปยังเขตใจกลางต่างๆ ของนครฮ่องกงซึ่งมีฐานะเป็นศูนย์กลางการเงินของเอเชียแห่งนี้
มีข่าวลือแพร่สะพัดไปในกลุ่มผู้ประท้วงว่าฝ่ายตำรวจอาจจะกำลังเตรียมตัวเคลื่อนเข้าไป “ขอคืนพื้นที่” อีกครั้ง เนื่องจากรัฐบาลประกาศว่าจะยังคงเดินหน้าเฉลิมฉลองวันชาติตามที่กำหนดเอาไว้
แต่ข่าวลือนี้ไม่ได้ทำให้ผู้ประท้วง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาหวั่นไหว พวกเขายืนกรานเรียกร้องประชาธิปไตยเต็มรูปแบบในฮ่องกง และต้องการให้เหลียง ชุนอิง ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ซึ่งเป็นบุคคลที่ปักกิ่งหนุนหลังอยู่ ลาออกจากตำแหน่งไป
การประท้วงคราวนี้ปะทุลุกลามขึ้นมา ภายหลังจากที่สภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ หรือรัฐสภา ของจีน มีมติเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า ในการเลือกตั้งผู้ว่าการฮ่องกงครั้งต่อไปในปี 2017 ชาวฮ่องกงจะสามารถใช้สิทธิเลือกผู้บริหารของตนได้โดยตรง ทว่าผู้สมัครที่จะลงแข่งขันได้จะถูกคัดกรองโดยคณะกรรมการชุดหนึ่ง ซึ่งเข้าใจกันว่าเป็นพวกโปรปักกิ่ง เสียก่อน
รัฐบาลจีนได้ประณามการประท้วงคราวนี้ว่าผิดกฎหมาย แต่ก็ยังไม่ได้แสดงท่าทีจะเข้าแทรกแซงอย่างเปิดผย ยังคงปล่อยให้คณะรัฐบาลที่มีอำนาจกึ่งปกครองตนเองของเหลียง เป็นผู้รับผิดชอบวิกฤตคราวนี้ โดยที่เหลียงออกมาแถลงในวันอังคาร ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับแต่ที่ตำรวจปราบจลาจลยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ชุมนุม ว่าปักกิ่งจะไม่ยอมอ่อนข้อให้การประท้วงผิดกฎหมายอย่างแน่นอน แต่ก็สำทับว่า ตำรวจฮ่องกงสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้โดยไม่ต้องพึ่งความช่วยเหลือจากกอง ทัพปลดแอกประชาชนจีน
เหลียงยังกล่าวว่า ขณะนี้กลุ่ม “อ็อกคิวพาย เซ็นทรัล” ไม่สามารถควบคุมการชุมนุมได้ จึงควรยุติการชุมนุมตามที่แกนนำเคยประกาศไว้ทันที และสำทับว่า ตนจะไม่ลาออกตามที่ผู้ชุมนุมเรียกร้อง
ทั้งนี้เห็นได้ชัดว่า เหลียงกำลังพยายามตอกลิ่มแบ่งแยกระหว่าง “อ็อกคิวพาย เซ็นทรัล” ซึ่งประกอบด้วยบุคคลหลายอาชีพและเป็นแกนนำการเคลื่อนไหวมาแต่เดิม กับพวกนักศึกษาที่เพิ่งมาต่อสู้เรียกร้องในช่วงหลังๆ และกลับระดมกำลังได้มากกว่าอีกทั้งเคลื่อนไหวอย่างกระฉับกระเฉงกว่า
อย่างไรก็ตาม เอ็ด ชิน ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์และนักเคลื่อนไหวของอ็อกคิวพาย เซ็นทรัล ปฏิเสธข้อเรียกร้องของเหลียง พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่าจะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมทะลุหลักแสนคนในคืนวันอังคาร และยิ่งเข้มข้นขึ้นในวันพุธพร้อมไปกับที่ทางการจัดงานฉลองวันชาติจีน
ขณะที่ อเล็กซ์ โจว ผู้นำสหพันธ์นักศึกษาฮ่องกงแถลงว่า การประท้วงที่เริ่มต้นการจากการรวมตัวของนักศึกษาและขบวนการอ็อกคิวพาย เซ็นทรัล ขณะนี้แพร่หลายและได้รับการสนับสนุนจากผู้คนทุกภาคส่วน ส่งผลให้รัฐบาลจีนและฮ่องกงเริ่มรู้สึกถูกกดดันมากขึ้น
โจวยังขีดเส้นตายให้เหลียง ออกมาเจรจาตกลงกับผู้ประท้วงก่อนเที่ยงคืนวันอังคาร พร้อมกันนั้นเขาก็ระบุว่า ถ้ารัฐบาลฮ่องกงยังไม่มีการตอบสนองใดๆ ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม (วันพฤหัสบดีนี้) การประท้วงก็จะต้องยกระดับขึ้นอีกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้เขากล่าวว่าทางเลือกที่พวกนักศึกษากำลังหารือกันอยู่มีดังเช่น การขยายการประท้วง, การผลักดันให้แรงงานนัดหยุดงาน และกระทั่งการเข้ายึดสถานที่ราชการ
เวลานี้ ผู้ประท้วงรวมกลุ่มกันในย่านธุรกิจสำคัญอย่างน้อย 4 แห่งของฮ่องกง ซึ่งรวมถึงแอดมิรัลตี้ กับ คอสเวย์เบย์ บนเกาะฮ่องกง และมองก๊อก ในเกาลูน โดยที่ ชาน คินมัน ผู้ร่วมก่อตั้งออกคิวพาย เซ็นทรัล เรียกสถานที่เหล่านี้รวมกันว่า “จัตุรัสประชาธิปไตย”
ผู้จัดการชุมนุมระบุว่า มีประชาชนถึง 80,000 คนชุมนุมบนถนนหลายสาย หลังจากเริ่มต้นการประท้วงเมื่อคืนวันศุกร์ (27) หลายคนในจำนวนนี้ปักหลักพักค้างบนถนนที่ปกติแล้วจราจรคับคั่งอย่างมากมาตลอด 4 คืนที่ผ่านมา
ในวันอังคาร ผู้ชุมนุมจำนวนมากขนน้ำ ผลไม้ ขนม เสื้อฝน ผ้าเช็ดตัว หน้ากาก แว่นนิรภัย เต็นท์ ฯลฯ มาเตรียมไว้สำหรับการต่อสู้ที่คาดว่า จะกินเวลายาวนาน บางคนช่วยกันสร้างแนวป้องกันชั่วคราว ที่จุดหนึ่งมีคนนำรถมาจอดเรียงกันเพื่อปิดถนน
ผู้จัดการชุมนุมยังรณรงค์ขอรับบริจาคริบบิ้นสีเหลืองที่เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของการประท้วงครั้งนี้นอกเหนือจากร่ม รวมทั้งแว่นนิรภัยเพื่อป้องกันแก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทย
อย่างไรก็ดี ในอีกด้านหนึ่งก็มีชาวฮ่องกงจำนวนมากเริ่มไม่พอใจที่ไม่ได้รับความสะดวกตามปกติ โดยเฉพาะการเดินทางผ่านย่านสำคัญที่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมยึดครองพื้นที่ ขณะที่โรงเรียนและธุรกิจจำนวนมากในเขตที่มีการประท้วงต้องปิดทำการ และพวกผู้นำภาคธุรกิจร้องเรียนว่าการประท้วงกำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทางด้านตำรวจก็เรียกร้องให้ผู้ชุมนุมคืนพื้นผิวจราจร เนื่องจากขัดขวางการให้บริการฉุกเฉิน
ส่วนที่ปักกิ่ง พวกผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ซึ่งดูจะมีความกังวลว่ากระแสเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงอาจจะลามสู่แผ่นดินใหญ่ จึงสั่งการให้เซนเซอร์ข่าวสารและการแสดงความคิดเห็นในสื่อสังคมเกี่ยวกับการชุมนุมในฮ่องกงอย่างเข้มงวด
ในวันอังคาร ทางการจีนในปักกิ่งยืนหยัดต่อต้านการประท้วงในฮ่องกง โดยประกาศสนับสนุนการดำเนินการของรัฐบาลฮ่องกงต่อการชุมนุมดังกล่าวซึ่งถือ เป็นกิจกรรมผิดกฎหมาย
ขณะเดียวกัน โลกภายนอกโดยเฉพาะประเทศตะวันตกเฝ้าติดตามสถานการณ์ของฮ่องกง โดยแสดงความกังวลอาจมีการปะทะและนำไปสู่การปราบปรามอย่างรุนแรง
วอชิงตันเรียกร้องให้ทางการฮ่องกงอดกลั้น และขอให้ผู้ประท้วงชุมนุมอย่างสันติ
นอกจากนี้ อเมริกา ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ยังออกคำเตือนประชาชนที่มีแผนเดินทางไปยังฮ่องกง
ด้านนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนของอังกฤษ แสดงความกังวลเกี่ยวกับการปะทะระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุมในฮ่องกง
สถานการณ์ในฮ่องกงยังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากไต้หวัน ซึ่งแม้เวลานี้มีประชาธิปไตยเต็มรูปแบบ แต่ก็ยังคงถูกปักกิ่งระบุว่า เป็นมณฑลกบฏที่วันหนึ่งต้องกลับไปรวมกับแผ่นดินใหญ่
ประธานาธิบดีหม่า หยิง-จิวของไต้หวัน แสดงทัศนะว่า ปักกิ่งจำเป็นต้องรับฟังเสียงเรียกร้องของชาวฮ่องกงอย่างถ้วนถี่