สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (30 กันยายน 2557) ชาวฮ่องกงหลายพันคนกลับออกมาชุมนุมบนท้องถนนกันอีกครั้ง ผู้จัดการชุมนุมหวังว่าจะเป็นการรวมตัวกันครั้งใหญ่ที่สุด หลังจากที่ผู้ประท้วงได้ปิดกั้นถนนในใจกลางฮ่องกงมาหลายวันแล้ว เพื่อเรียกร้องให้จีนยกเลิกแผนที่จะให้คนฮ่องกงต้องเลือกผู้นำที่ผ่านการคัดเลือกมาจากจีน ขณะที่ผู้ว่าการฮ่องกงคนปัจจุบันยืนกรานไม่ลาออกจากตำแหน่งและขอร้องให้ผู้ประท้วงซึ่งเป็นนักศึกษาและผู้สนับสนุนกลุ่ม Occupy Central กลับบ้านไป
ทั้งนี้ นายเอ็ด ชิน หนึ่งในแกนนำของกลุ่ม Occupy Central คาดว่าจะมีคนออกมารวมตัวกันเกินหนึ่งแสนคน เพื่อประท้วงต่อเนื่องไปจนถึงวันชาติจีน 1 ตุลาคม
ผู้เรียกร้องประชาธิปไตยนับหมื่นเมินคำขอร้องของทางการที่ให้ยุติการชุมนุมทันที แต่กลับขยายเข้ายึดถนนหลายสายในฮ่องกง ตุนเสบียง และสร้างแนวป้องกันชั่วคราว เตรียมพร้อมรับการทวงคืนพื้นที่ของตำรวจเพื่อจัดงานฉลองวันชาติจีนในวันพุธ (1 ต.ค.) ซึ่งก็เป็นกำหนดเส้นตายที่ผู้นำประท้วงเรียกร้องให้ผู้ว่าการฮ่องกงลาออก รวมทั้งมอบประชาธิปไตยที่แท้จริงให้แก่ประชาชน มิฉะนั้นจะยกระดับการประท้วงขึ้นไปอีก
ตำรวจปราบจลาจลได้ยิงสเปรย์พริกไทยและแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทว่าได้ถอนกำลังออกไปตั้งแต่วันจันทร์ (29 ก.ย.) และถึงช่วงคืนวันอังคาร (30 ก.ย.) บรรยากาศการชุมนุมเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย โดยตำรวจถอนกำลังออกจากย่านแอดมิรัลตี้เกือบหมด ยกเว้นโดยรอบอาคารที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นฮ่องกง
ในวันก่อนหน้าวาระเฉลิมฉลองพรรคคอมมิวนิสต์จีนสถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนขึ้นในวันที่ 1 ตุลาคม ของเมื่อปี 1949 มีผู้คนจำนวนมากได้หลั่งไหลเข้าไปยังเขตใจกลางต่างๆ ของนครฮ่องกงซึ่งมีฐานะเป็นศูนย์กลางการเงินของเอเชียแห่งนี้
มีข่าวลือแพร่สะพัดไปในกลุ่มผู้ประท้วงว่าฝ่ายตำรวจอาจจะกำลังเตรียมตัวเคลื่อนเข้าไป “ขอคืนพื้นที่” อีกครั้ง เนื่องจากรัฐบาลประกาศว่าจะยังคงเดินหน้าเฉลิมฉลองวันชาติตามที่กำหนดเอาไว้
แต่ข่าวลือนี้ไม่ได้ทำให้ผู้ประท้วง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาหวั่นไหว พวกเขายืนกรานเรียกร้องประชาธิปไตยเต็มรูปแบบในฮ่องกง และต้องการให้เหลียง ชุนอิง ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ซึ่งเป็นบุคคลที่ปักกิ่งหนุนหลังอยู่ ลาออกจากตำแหน่งไป
การประท้วงคราวนี้ปะทุลุกลามขึ้นมา ภายหลังจากที่สภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ หรือรัฐสภา ของจีน มีมติเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า ในการเลือกตั้งผู้ว่าการฮ่องกงครั้งต่อไปในปี 2017 ชาวฮ่องกงจะสามารถใช้สิทธิเลือกผู้บริหารของตนได้โดยตรง ทว่าผู้สมัครที่จะลงแข่งขันได้จะถูกคัดกรองโดยคณะกรรมการชุดหนึ่ง ซึ่งเข้าใจกันว่าเป็นพวกโปรปักกิ่ง เสียก่อน
รัฐบาลจีนได้ประณามการประท้วงคราวนี้ว่าผิดกฎหมาย แต่ก็ยังไม่ได้แสดงท่าทีจะเข้าแทรกแซงอย่างเปิดผย ยังคงปล่อยให้คณะรัฐบาลที่มีอำนาจกึ่งปกครองตนเองของเหลียง เป็นผู้รับผิดชอบวิกฤตคราวนี้ โดยที่เหลียงออกมาแถลงในวันอังคาร ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับแต่ที่ตำรวจปราบจลาจลยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ชุมนุม ว่าปักกิ่งจะไม่ยอมอ่อนข้อให้การประท้วงผิดกฎหมายอย่างแน่นอน แต่ก็สำทับว่า ตำรวจฮ่องกงสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้โดยไม่ต้องพึ่งความช่วยเหลือจากกอง ทัพปลดแอกประชาชนจีน
ด้านนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษให้สัมภาษณ์โทรทัศน์สกายนิวส์ว่า มีความวิตกกังวลต่อการประท้วงที่ยืดเยื้อในฮ่องกงพร้อมเตือนจีนให้ยึดมั่นพันธสัญญาที่อังกฤษบรรลุข้อตกลงกับจีน โดยอังกฤษได้ส่งมอบเกาะฮ่องกงกลับสู่จีนในปี2540 ภายใต้ข้อตกลงการให้อนาคตที่เป็นประชาธิปไตยแก่ชาวฮ่องกงภายใต้ระบบปกครอง “หนึ่งประเทศสองระบบ”คือต้องให้ฮ่องกงคงระบบทุนนิยมและวิถีชีวิตเดิมไปจนถึงปี 2590 โดยเขาหวังว่าปัญหาดังกล่าวจะสามารถคลี่คลายไปได้
ทั้งนี้ นายเอ็ด ชิน หนึ่งในแกนนำของกลุ่ม Occupy Central คาดว่าจะมีคนออกมารวมตัวกันเกินหนึ่งแสนคน เพื่อประท้วงต่อเนื่องไปจนถึงวันชาติจีน 1 ตุลาคม
ผู้เรียกร้องประชาธิปไตยนับหมื่นเมินคำขอร้องของทางการที่ให้ยุติการชุมนุมทันที แต่กลับขยายเข้ายึดถนนหลายสายในฮ่องกง ตุนเสบียง และสร้างแนวป้องกันชั่วคราว เตรียมพร้อมรับการทวงคืนพื้นที่ของตำรวจเพื่อจัดงานฉลองวันชาติจีนในวันพุธ (1 ต.ค.) ซึ่งก็เป็นกำหนดเส้นตายที่ผู้นำประท้วงเรียกร้องให้ผู้ว่าการฮ่องกงลาออก รวมทั้งมอบประชาธิปไตยที่แท้จริงให้แก่ประชาชน มิฉะนั้นจะยกระดับการประท้วงขึ้นไปอีก
ตำรวจปราบจลาจลได้ยิงสเปรย์พริกไทยและแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทว่าได้ถอนกำลังออกไปตั้งแต่วันจันทร์ (29 ก.ย.) และถึงช่วงคืนวันอังคาร (30 ก.ย.) บรรยากาศการชุมนุมเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย โดยตำรวจถอนกำลังออกจากย่านแอดมิรัลตี้เกือบหมด ยกเว้นโดยรอบอาคารที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นฮ่องกง
ในวันก่อนหน้าวาระเฉลิมฉลองพรรคคอมมิวนิสต์จีนสถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนขึ้นในวันที่ 1 ตุลาคม ของเมื่อปี 1949 มีผู้คนจำนวนมากได้หลั่งไหลเข้าไปยังเขตใจกลางต่างๆ ของนครฮ่องกงซึ่งมีฐานะเป็นศูนย์กลางการเงินของเอเชียแห่งนี้
มีข่าวลือแพร่สะพัดไปในกลุ่มผู้ประท้วงว่าฝ่ายตำรวจอาจจะกำลังเตรียมตัวเคลื่อนเข้าไป “ขอคืนพื้นที่” อีกครั้ง เนื่องจากรัฐบาลประกาศว่าจะยังคงเดินหน้าเฉลิมฉลองวันชาติตามที่กำหนดเอาไว้
แต่ข่าวลือนี้ไม่ได้ทำให้ผู้ประท้วง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาหวั่นไหว พวกเขายืนกรานเรียกร้องประชาธิปไตยเต็มรูปแบบในฮ่องกง และต้องการให้เหลียง ชุนอิง ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ซึ่งเป็นบุคคลที่ปักกิ่งหนุนหลังอยู่ ลาออกจากตำแหน่งไป
การประท้วงคราวนี้ปะทุลุกลามขึ้นมา ภายหลังจากที่สภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ หรือรัฐสภา ของจีน มีมติเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า ในการเลือกตั้งผู้ว่าการฮ่องกงครั้งต่อไปในปี 2017 ชาวฮ่องกงจะสามารถใช้สิทธิเลือกผู้บริหารของตนได้โดยตรง ทว่าผู้สมัครที่จะลงแข่งขันได้จะถูกคัดกรองโดยคณะกรรมการชุดหนึ่ง ซึ่งเข้าใจกันว่าเป็นพวกโปรปักกิ่ง เสียก่อน
รัฐบาลจีนได้ประณามการประท้วงคราวนี้ว่าผิดกฎหมาย แต่ก็ยังไม่ได้แสดงท่าทีจะเข้าแทรกแซงอย่างเปิดผย ยังคงปล่อยให้คณะรัฐบาลที่มีอำนาจกึ่งปกครองตนเองของเหลียง เป็นผู้รับผิดชอบวิกฤตคราวนี้ โดยที่เหลียงออกมาแถลงในวันอังคาร ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับแต่ที่ตำรวจปราบจลาจลยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ชุมนุม ว่าปักกิ่งจะไม่ยอมอ่อนข้อให้การประท้วงผิดกฎหมายอย่างแน่นอน แต่ก็สำทับว่า ตำรวจฮ่องกงสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้โดยไม่ต้องพึ่งความช่วยเหลือจากกอง ทัพปลดแอกประชาชนจีน
ด้านนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษให้สัมภาษณ์โทรทัศน์สกายนิวส์ว่า มีความวิตกกังวลต่อการประท้วงที่ยืดเยื้อในฮ่องกงพร้อมเตือนจีนให้ยึดมั่นพันธสัญญาที่อังกฤษบรรลุข้อตกลงกับจีน โดยอังกฤษได้ส่งมอบเกาะฮ่องกงกลับสู่จีนในปี2540 ภายใต้ข้อตกลงการให้อนาคตที่เป็นประชาธิปไตยแก่ชาวฮ่องกงภายใต้ระบบปกครอง “หนึ่งประเทศสองระบบ”คือต้องให้ฮ่องกงคงระบบทุนนิยมและวิถีชีวิตเดิมไปจนถึงปี 2590 โดยเขาหวังว่าปัญหาดังกล่าวจะสามารถคลี่คลายไปได้