เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ วันพฤหัสบดี (25 ก.ย.) บอกยังดำเนินการไม่เพียงพอสำหรับจัดการกับการแพร่ระบาดของอีโบลาในแอฟริกาตะวันตกและเรียกร้องความช่วยเหลือจากนานาชาติเพิ่มเติม สอดคล้องกับเลขาธิการยูเอ็นที่เตือนว่าโลกต้องหยุดไวรัสมรณะในตอนนี้ก่อนจะสายเกินไป อย่างไรก็ตามยังพอมีข่าวดีอยู่บ้าง เมื่อพบผู้ติดเชื้อที่รักษาตัวในอเมริกา ฟื้นไข้เป็นรายที่ 3 หลังได้รับการถ่ายเลือดจากผู้ที่หายป่วยก่อนหน้านี้
“เราเคลื่อนไหวไม่เร็วพอ เรายังดำเนินการไม่เพียงพอ” โอบามาบอกต่อที่ประชุมสหประชาชาติในประเด็นวิกฤตด้านสาธารณสุขจากการแพร่ระบาดของอีโบลา “ ตอนนี้ทุกๆคนมีความตั้งใจอย่างยิ่งยวด แต่บางส่วนยังไม่นำทรัพยากรรูปแบบต่างๆ ที่จำเป็นมาช่วยหยุดยั้งการแพร่ระบาดนี้” เขากล่าว
นายบัน คีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ คือผู้เรียกประชุมในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์กระตุ้นปฏิกิริยาตอบสนองของนานาชาติต่อการแพร่ระบาดของอีโบลาครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนในไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน กินี และไนจีเรีย แล้วเกือบ 3,000 ศพ
ระบบสาธารณสุขใน 3 ประเทศ ได้แก่ ไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน และไนจีเรีย ไม่สามารถต้านทานอีโบลาได้แล้ว และสหประชาชาติย้ำถึงคำวิงวอนเร่งด่วนขอแรงสนับสนุนประเทศต่างๆ ส่งเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล เครื่องมือทางการแพทย์และเสบียงต่างๆ ไปยังชาติแอฟริกาตะวันตกเหล่านั้นเพิ่มเติม “โลกสามารถและจำเป็นต้องหยุดอีโบลาให้ได้ในตอนนี้” นายบันกล่าวต่อที่ประชุม “วันนี้คือเวลาที่ประชาคมนานาชาติต้องเร่งมือ”
ทั้งนี้ เสียงเรียกร้องของโอบามาและเลขาธิการสหประชาชาติ ได้รับการตอบสนองอย่างทันท่วงทีจากธนาคารโลกที่เผยในเวลาไล่เลี่ยกันว่าจะเพิ่มเงินช่วยเหลืออีก 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับนำไปต่อสู้กับการแพร่ระบาดของอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก
เวิลด์แบงก์บอกว่า เงินทุนก้อนใหม่นี้ซึ่งยังต้องผ่านความเห็นชอบของบอร์ดบริการ จะนำไปขยายขอบเขตงานด้านสาธารณสุขและจัดซื้อเสบียงต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับดูแลและรักษาผู้ป่วยในเหล่าประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด โดยความช่วยเหลือดังกล่าว ส่งผลให้ยอดรวมเงินที่ธนาคารโลกอัดฉีดเพื่อต่อสู้กับอีโบลาในไลบีเรีย กินีและเซียร์ราลีโอน เพิ่มเป็น 400 ดอลลาร์สหรัฐแล้ว
รัฐบาลเซียร์ราลีโอนประกาศให้ 3 เขตและอีก 12 หมู่บ้านชนเผ่าเป็นพื้นที่กักกัน เพื่อสกัดกั้นการระบาดของไวรัสอีโบลา โดยให้มีผลบังคับทันที ซึ่งถือเป็นการประกาศพื้นที่กักกันที่กว้างขว้างที่สุดนับตั้งแต่ไวรัสมรณะเริ่มแพร่ระบาดในแอฟริกาตะวันตกปีนี้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (ซีดีซี) คาดหมายว่าในกรณีเลวร้ายที่สุดยอดผู้ติดเชื้อในไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน อาจพุ่งถึง 1.4 ล้านคนในเดือนมกราคมปีหน้า หากไม่รีบยับยั้งการระบาด
อย่างไรก็ตาม ยังพอมีข่าวดีอยู่บ้าง เมื่อคณะแพทย์ของศูนย์การแพทย์เนบราสกา แถลงในวันพฤหัสบดี (25 ก.ย.) ว่าผู้ติดเชื้อชาวสหรัฐฯ รายที่ 3 ที่ส่งตัวกลับมารักษาตัวในอเมริกา เวลานี้ฟื้นไข้ ปลอดจากไวรัสมรณะและได้รับอนุญาตให้กลับบ้านแล้ว
“ผมมีความสุขมากที่ได้มาอยู่ตรงนี้กับทุกๆคนในโอกาสที่ผมได้รับอนุญาตให้กลับบ้านแล้ว” นายแพทย์ริก ซากรา แพทย์อาสาสมัครวัย 51 ปีที่ติดเชื้ออีโบลา ขณะช่วยรักษาผู้ป่วยในไลบีเรียกล่าว
นายแพทย์รายนี้ติดเชื้อเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม และถูกนำขึ้นเครื่องส่งตัวมายังศูนย์การแพทย์เนบราสกาในวันที่ 5 กันยายน จากนั้นก็ได้รับยาที่ยังไม่ผ่านการทดลอง TKM-Ebola รวมถึงได้รับการถ่ายเลือดจาก เคนท์ แบรนต์ลีย์ นายแพทย์ชาวอเมริกาอีกคน ที่ฟื้นไข้จากไวรัสอีโบลา ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม
ผลการศึกษาบ่งชี้ว่า การถ่ายเลือดจากผู้ติดเชื้ออีโบลา อาจช่วยป้องกันหรือรักษาผู้ติดเชื้อรายอื่นๆ ขณะที่องค์กรอนามัยโลก (WHO) เผยเมื่อช่วงต้นเดือนว่าวิธีบำบัดด้วยเลือดและเซรุ่มระยะฟื้นโรคของผู้รอดชีวิตจากอีโบลา อาจช่วยรักษาผู้ติดเชื้อคนอื่นๆ ระหว่างที่วัคซีนป้องกันยังอยู่ในขั้นทดลองความปลอดภัย