เอเจนซีส์/เอพี - เมื่อวานนี้ (22 ก.ย.) ทีมแพทย์จากศูนย์การแพทย์เนแบรสกา(The Nebraska Medical Center) แถลงว่า ริก ซาครา คนไข้ติดเชื้ออีโบลารายที่ 3ที่ได้รับการส่งตัวบินกลับมารักษาที่รัฐเนแบรสกามีอาการดีขึ้นมากหลังจากได้รับการรักษาด้วยเซรุมทดลอง TKM-Ebola จากบริษัทยา เทกมิรา (Tekmira) สัญชาติแคนาดา และได้รับเลือดจากเคนท์ แบรตลีย์ ผู้ป่วยติดเชื้ออีโบลารายแรกสหรัฐฯ ที่ได้รับการรักษาจนหาย ในขณะเดียวกันบาทหลวงมานูเอล การ์เซีย เบียโฮ (Manuel Garcia Viejo) วัย 69 ปีเป็นคนไข้อีโบลารายที่ 2 บินตรงจากเซียร์ราลีโอนถึงกรุงมาดริดแล้ว
NBC News สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้ (22) ว่า ถึงแม้ทางองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA จะอนุญาตให้บริษัทยาสัญชาติแคนาดา เทกมิรา (Tekmira)สามารถใช้เซรุมทดลอง TKM-Ebola เพื่อการรักษาผู้ป่วยติดเชื้ออีโบลาได้ตามนโยบายฉุกเฉินรับมือการแพร่ระบาดของโรคแต่ทว่าจำนวนของเซรุม TKM-Ebolaนั้นยังมีจำกัด นายแพทย์ฟิล สมิท (Phil Smith) ผู้อำนวยการแผนกป้องกันภัยชีวภาพประจำศูนย์การแพทย์เนแบรสกา (The Nebraska Medical Center) แถลง
ทั้งนี้ ทั้งสมิทและแพทย์หญิง แองเจลา ฮิวเล็ตต์ (Angela Hewlett) ต่างยืนยันว่าไม่มีทางทราบได้เลยว่าปัจจัยใดบ้างที่ทำให้นายแพทย์ริก ซาครา คนไข้ติดเชื้ออีโบลารายที่ 3 มีอาการดีขึ้น หลังจากซาคราได้รับการรักษาแบบประคองอาการเพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายกลับมาทำงานอีกครั้ง (supportive care) ที่รวมไปถึงให้สารอาหารและเกลือแร่ที่จำเป็นหลังร่างกายต้องสูญเสียเนื่องมาจากการอาเจียนและท้องเสีย รวมไปถึงการได้รับเลือดจากนายแพทย์เคนท์ แบรตลีย์ อดีตผู้ป่วยโรคอีโบลาที่ได้รับการรักษาจนหายดี หรือเป็นเพราะเซรุมทดลอง TKM-Ebola ของบริษัทยา เทกมิรากันแน่ หรืออาจเป็นทุกปัจจัยที่กล่าวมารวมกันทำให้ซาครามีอาการดีขึ้นมาก
ฮิวเล็ตต์เผยว่า สิ่งที่สำคัญสำหรับทางโรงพยาบาลคือดึงทรัพยากรทุกอย่างที่ทางโรงพยาบาลจะสามารถหาได้เพื่อช่วยชีวิตซาครา และทำการศึกษาว่าการรักษาแบบใดที่ดีสุดในการรักษาอาการป่วยจากไวรัสอีโบลา
TKM-Ebola ถือเป็นเซรุมทดลองที่ 2 นอกจาก Zmapp ที่พบว่าสามารถทำให้ผู้ป่วยโรคอีโบลามีอาการดีขึ้น
ในขณะเดียวกันที่ยุโรป สื่ออังกฤษรายงานว่า บาทหลวงมานูเอล การ์เซีย เบียโฮ (Manuel Garcia Viejo) วัย 69 ปี เป็นคนไข้อีโบลารายที่ 2 ติดเชื้ออีโบลาได้รับการนำตัวขึ้นเครื่องบินกองทัพสเปนส่งตัวกลับมารักษาที่ประเทศบ้านเกิดถึงกรุงแมดริดแล้วในวันจันทร์ (22)
ทั้งนี้ บาทหลวงมิชชันนารีมานูเอล การ์เซีย เบียโฮ เป็นผู้อำนวยการของโรงพยาบาล Order of San Juan de Dios ในขณะที่เขาให้การรักษาผู้ป่วยอีโบลาในเมืองลุนซาร์ (Lunsar) ทางตะวันตกของเซียร์ราลีโอน
บาทหลวงมานูเอล การ์เซีย เบียโฮถูกส่งมาในสภาพที่นอนอยู่ภายในเตนท์ปลอดเชื้อที่ปิดตามอย่างหนาแน่น และถือเป็นคนไข้อีโบลารายที่ 2 ของสเปนต่อจากบาทหลวงมิกูเอล ปาจาเรส วัย (Miguel Pajares) วัย 75 ปี ซึ่งอยู่ใต้สังกัด San Juan de Dios เดียวกัน โดยทางสเปนได้ส่งบาทหลวงมิชชันนารีไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลมาดริด คาร์ลอส ที่ 3 (Madrid Carlos III)
ทางด้านทีมแพทย์สเปนที่จะรักษาบาทหลวงมิชชันนารีวัย 69 ปี เผยว่าในขณะนี้ Zmappซึ่งเป็นเซรุมทดลองรักษาอีโบลาได้หมดไปแล้วทั่วโลก ทางคณะแพทย์กำลังหาหนทางอื่นเพื่อทำการรักษา ทั้งนี้พบว่าผู้ป่วยบาทหลวงมีอาการค่อนข้างหนักจากโรคแทรกซ้อนทางตับและไต รวมไปถึงอาการขาดน้ำอย่างรุนแรง ฮาเวียร์ โรดริเกซ (Javier Rodriguez) หัวหน้าสาธารณสุขประจำภาคในสเปนแถลง นอกจากนี้นายแพทย์โฮเซ รามอน อาร์ริบาส (Jose Ramon Arribas) จากโรงพยาบาลมาดริด คาร์ลอส ที่ 3 เผยว่า มีแนวคิดที่จะให้เลือดผู้ป่วยอีโบลาที่รอดชีวิตกับคนไข้นอกเหนือจากการหาทางเลือกการรักษาทางอื่น
