เอเอฟพี - กบฏนิยมรัสเซียแถลงในวันอังคาร (23 ก.ย.) จะจัดการเลือกตั้งของตนเองในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพิ่มความเสี่ยงในการเผชิญหน้ากับเคียฟอีกครั้ง แม้ทั้งสองฝ่ายกำลังเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ในการยุติเหตุสู้รบที่ยืดเยื้อมานานกว่า 5 เดือน
อเล็กซานเดอร์ ซาคาร์เชนโก นายกรัฐมนตรีของพื้นที่ซึ่งอ้างตนเองว่า “สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์” บอกว่าดินแดนแยกตัวทางตะวันออกทางของยูเครนจะจัดการเลือกตั้งเพื่อเลือกสมาชิกรัฐสภา และผู้นำ ในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้
ขณะที่นายอเล็กซ์ คาร์ยาคิน ประธานรัฐสภาในสาธารณรัฐประชาชานลูกานสก์ที่อยู่ติดกัน บอกกับสำนักข่าวทาสส์ว่า ดินแดนของพวกเขาก็จะจัดการเลือกตั้งในวันเดียวกัน
ถ้อยแถลงที่น่าประหลาดใจนี้มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนายซาคาร์เชนโกให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ว่าฝ่ายกบฏกำลังถอนอาวุธหนักออกจากแนวหน้าภายใต้แผนสันติภาพที่ตกลงกับเคียฟ ซึ่งมีเป้าหมายยุติความขัดแย้งที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 3,000 ศพ
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พบเห็นรถถังเคลื่อนพลกลับไปยังที่มั่นใกล้เมืองโดเนตสก์ ป้อมปราการของฝ่ายกบฏ แม้มีรายงานเกี่ยวกับการสู้รบรอบๆ สนามบินหลักของเมืองในช่วงเช้าวันอังคาร (23 ก.ย.) “เราถอนปืนใหญ่ออกมา แต่เราจะดำเนินการเฉพาะในพื้นที่ซึ่งหน่วยประจำการของยูเครนทำแบบเดียวกัน” ซาคาร์เชนโกกล่าว “ที่ไหนที่ยูเครนไม่ถอนปืนใหญ่ เราก็จะไม่ถอนเช่นกัน”
ยูเครนเผยเมื่อวันจันทร์ (22ก.ย.) ว่ากำลังถอนทหารกลับภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงสันติภาพที่ลงนามในกรุงมินสก์ของเบลารุส ที่เรียกร้องสองฝ่ายถอนกำลังออกจากแนวหน้าและจัดตั้งเขตปลอดทหารรัศมี 30 กิโลเมตร
พวกกบฏลุกฮือต่อต้านเคียฟในเดือนเมษายน เข้ายึดเมืองต่างๆ ทางภาคตะวันออก และจัดลงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชสำหรับโดเนตสก์ และลูกานสก์ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ความรุนแรงทั่วโดเนตสก์และลูกานสก์ลดน้อยลงไปตามหลังการลงนามในข้อตกลงหยุดยิงซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนสันติภาพเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา แต่ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่าสนามบินโดเนตสก์ ซึ่งเป็นสนามรบสำคัญในความขัดแย้ง ถูกโจมตีอย่างหนักด้วยกระสุนปืนใหญ่ในตอนเช้าวันอังคาร (23 ก.ย.) ก่อไฟลุกท่วมและกลุ่มควันหนาทึบลอยพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
ศาลากลางเมืองโดเนตสก์เผยว่า เมื่อคืนมีพลเรือนถูกสังหารอีก 1 คน ส่งผลนับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 กันยายน มีทหารยูเครนและพลเรือนเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 40 ศพ “ข้อตกลงหยุดยิง ไม่ได้ขจัดทุกอย่างให้พ้นไป” ซาคาร์เชนโกกล่าว “ยังมีการยิงออกมาจากฝั่งยูเครนเหมือนก่อนหน้านั้น ผมขอเรียกมันว่าปฏิบัติการทางทหารที่เคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ละกัน”
ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก แห่งยูเครน บรรลุข้อตกลงสันติภาพตามหลังการเจราหลายรอบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ที่ถูกเคียฟและตะวันตกกล่าวโทษว่ายุยงฝ่ายกบฏด้วยให้การสนับสนุนทางกำลังทหารและอาวุธหนัก
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน รัฐสภายูเครนเสนอมอบอำนาจปกครองตนเองชั่วคราวแก่กบฏและจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นในเดือนธันวาคม ทว่าทุกประเด็นในข้อตกลงมินสก์กลายเป็นสิ่งสำคัญท้ายสุด จากความกังวลต่อคำกล่าวอ้างของพื้นที่แบ่งแยกดินแดนที่ต้องการเป็นเอกราชโดยสมบูรณ์