เอเอฟพี - เกิดเหตุสู้รบกันระหว่างกองทัพยูเครนกับกลุ่มกบฏฝักใฝ่รัสเซีย ที่บริเวณสนามบินใกล้กับโดเนตสก์ในวันนี้ (23 ก.ย.) ทำให้มีควันดำลอยฟุ้งอยู่เหนือท้องฟ้าในพื้นที่ดังกล่าว
การสู้รบเกิดขึ้นแม้ว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงใหม่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (20 ก.ย.) ซึ่งมีการเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายถอนกำลังออกจากแนวหน้าเพื่อสร้างพื้นที่แนวกันชน
นักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า มีการยิงกระสุนปืนใหญ่เข้าใส่บริเวณสนามบินอย่างหนัก ทั้งยังได้ยินเสียงยิงปืนต่อสู้กัน
โดเนตสก์เป็นเมืองใหญ่สุดที่ฝ่ายกบฏยึดครองได้ในภาคตะวันออกของยูเครน แต่ถึงกระนั้น บริเวณสนามบินก็ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายกองทัพรัฐบาล แม้ว่าจะถูกฝ่ายกบฏเข้าโจมตีหลายครั้ง
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการสู้รบอยู่บริเวณสนามบิน แต่ทางฝ่ายกบฏฝักใฝ่รัสเซียก็ออกมาระบุในวันนี้ (23 ก.ย.) ว่าพวกเขาได้ถอนกำลังอาวุธปินใหญ่แล้ว
ผู้นำฝ่ายกบฏที่อ้างว่าเป็นนายกรัฐมนตรีของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ ระบุว่า พวกเขาได้ถอนกำลังอาวุธปืนใหญ่ออกจากแนวหน้า ในจุดเดียวกับที่ฝ่ายรัฐบาลถอนกำลังไปแล้ว
อเล็กซานเดอร์ ซาคาร์เชนโก ผู้นำฝ่ายกบฏบอกกับสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ว่า พวกเขาได้ถอนกำลังอาวุธปืนใหญ่แล้ว แต่เฉพาะในจุดที่กองทัพยูเครนถอนกำลังเท่านั้น ถ้าตรงจุดไหนที่ยูเครนยังปักหลักอยู่ ฝ่ายกบฏก็จะไม่ถอนกำลังเช่นเดียวกัน
เขาระบุเพิ่มเติมว่า มีเพียงปืนใหญ่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 100 มิลลิเมตรเท่านั้น ที่ถูกนำออกมาจากพื้นที่แนวหน้า
เมื่อวันเสาร์ (20 ก.ย.) กองทัพยูเครนกับฝ่ายกบฏฝักใฝ่รัสเซีย ได้บรรลุข้อตกลงที่ถอนกำลังออกจากแนวหน้า เพื่อสร้างเขตแนวกันชนกินพื้นที่ประมาณ 30 กิโลเมตร
ซาคาร์เชนโกระบุว่า ทางฝ่ายยูเครนดูจะไม่ได้เคร่งครัดกับเงื่อนไขของการหยุดยิง
“การหยุดยิงยังไม่ชัดเจน กระสุนจากฝ่ายกองทัพยูเครนยังถูกยิงออกมาดังเช่นที่ผ่านมา ผมเรียกวิธีการแบบนี้ว่าเป็นปฏิบัติการรุกคืบอย่างช้าๆ” เขาบอกกับอินเตอร์แฟกซ์