เอเอฟพี – รัฐบาลยูเครนและฝ่ายกบฏแบ่งแยกดินแดนได้มีการลงนามจัดตั้ง “เขตปลอดทหาร” ขึ้นในภาคตะวันออกของยูเครน ผู้แทนเจรจาจากทั้ง 2 ฝ่ายแถลงวันนี้(20)
อดีตประธานาธิบดี เลโอนิด คุชมา แห่งยูเครนซึ่งรับหน้าที่เป็นผู้แทนเจรจาของกรุงเคียฟ เผยต่อผู้สื่อข่าวว่า “เราได้ลงนามข้อตกลงฉบับหนึ่ง” ซึ่งมีเงื่อนไข 9 ประการ กำหนดให้ทั้ง 2 ฝ่ายหยุดใช้อาวุธทุกประเภท และถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่เพื่อประกาศเป็นเขตปลอดทหาร
“นี่จะเป็นโอกาสที่จะสร้างเขตหยุดยิงที่มีรัศมีกว้างไกลไม่ต่ำกว่า 30 กิโลเมตร” คุชมา ให้สัมภาษณ์ หลังจากที่การเจรจาซึ่งกินเวลานานถึง 7 ชั่วโมงสิ้นสุดลงเมื่อเวลา 2.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น
ข้อตกลงฉบับนี้นับเป็นความพยายามครั้งล่าสุดที่จะนำสันติภาพกลับคืนสู่ภาคตะวันออกของยูเครน ที่ซึ่งกลุ่มแบ่งแยกดินแดนโปรรัสเซียได้จับอาวุธต่อสู้กับกองกำลังของรัฐบาลยูเครนมาตั้งแต่เดือนเมษายน
ในการประชุม “กลุ่มสื่อสาร” (contact group) ครั้งก่อนเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน ซึ่งมีตัวแทนจากรัสเซียและองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) เข้าร่วมด้วยนั้น ยูเครนและฝ่ายกบฏสามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงซึ่งช่วยคลายความรุนแรงและลดการสูญเสียชีวิตพลเรือนลงมาได้บ้าง ทว่าเหตุการณ์ก็ยังไม่สงบลงเสียทีเดียว
ภายใต้ข้อตกลงวันนี้(20) รัฐบาลยูเครนและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนตกลงที่จะงดใช้อาวุธหนักในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น
คุชมา ระบุว่า เครื่องบินรบและอากาศยานไร้คนขับจะต้องหลีกเลี่ยงการบินเข้าไปในเขตปลอดทหารด้วย ซึ่ง OSCE จะคอยตรวจสอบเรื่องนี้
ข้อตกลงดังกล่าวยังกำหนดให้เคลื่อนย้าย “กลุ่มติดอาวุธต่างชาติ อาวุธยุทโธปกรณ์ นักรบ และทหารรับจ้าง” ออกจากเขตปลอดทหารให้หมดสิ้น
อิกอร์ โพลตินิตสกี ผู้นำกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่เรียกตนเองว่า สาธารณรัฐประชาชนลูกานสก์ (Lugansk People’s Republic) เน้นย้ำว่า ข้อตกลงดังกล่าวควรนำไปสู่การกำหนด “พื้นที่ซึ่งมีความปลอดภัยอย่างแท้จริง”
อย่างไรก็ดี ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่ได้พูดคุยเกี่ยวกับสถานะในอนาคตของจังหวัดโดเนตสก์และลูกานสก์ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน
“เรามีแนวคิดของเราเองในเรื่องนี้ ขณะที่ทางรัฐบาลยูเครนก็คิดอีกอย่าง” อเล็กซานเดอร์ ซาคาร์เชนโก หัวหน้ากลุ่มแบ่งแยกดินแดนจากโดเนตสก์ให้คำตอบ เมื่อถูกถามว่าต้องการเป็นส่วนหนึ่งของยูเครนต่อไปหรือไม่