xs
xsm
sm
md
lg

ส.ส.มะกันเห็นชอบติดอาวุธกบฏซีเรียสู้ IS โอบามากร้าวนักรบญิฮาดไร้ที่ซ่อน อวดสมรรถนะเข้าถึงศัตรูในระยะไกล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ในการแถลงภายหลังตรวจเยี่ยมฐานทัพอากาศแมคดิล มลรัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของกองบัญชากรกลางสหรัฐฯ ที่มีหน้าที่ตรวจตราดูแลปฏิบัติการทหารในภูมิภาคตะวันออกกลาง
เอเอฟพี - ประธานาธิบดี บารัค โอบามา และเหล่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ บีบคั้นกลุ่มติดอาวุธมุสลิมหัวรุนแรง “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ให้หนักยิ่งขึ้นในวันนี้ (18 ส.ค.) โดยผู้นำแดนอินทรีประกาศว่า นักรบญิฮาดกลุ่มนี้จะไม่มีที่ซ่อนตัว เพราะ “เราสามารถเข้าถึงศัตรูได้ในระยะไกล”

ภายหลัง โอบามาแถลงที่ฐานทัพอากาศแม็คดิล บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็ลงมติ 273 ต่อ 156 เสียงเห็นชอบกับแผนการฝึกฝน และติดอาวุธกบฏสายกลางในซีเรีย ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญในยุทธศาสตร์การทำลายกลุ่มไอเอส

โอบามามีท่าทีกระตือรือร้นในการถ่ายทอดอารมณ์อันแน่วแน่ดุดัน ณ ฐานทัพอากาศฟลอริดา ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของกองบัญชากลางสหรัฐฯ ที่ทำหน้าที่ตรวจตราดูแลปฏิบัติการทหารในภูมิภาคตะวันออกกลาง

เขาได้พบกับเหล่าผู้บัญชาการกองทัพเพื่อหารือกันถึงวิธีปราบกลุ่ม “รัฐอิสลาม” ซึ่งเป็นองค์การหัวรุนแรงอันทรงอิทธิพล แต่ขณะเดียวกันก็พยายามไม่สหรัฐฯ ถลำลงสู่วิกฤตขัดแย้งอันยืดเยื้อยาวนานที่ปะทุในตะวันออกกลางอีกครั้ง

โอบามามักเน้นย้ำอยู่เสมอว่า เขาจะไม่ส่งกำลังทหารเข้าไปปฏิบัติภารกิจภาคพื้น แม้ว่ากลุ่มไอเอส ซึ่งสหรัฐฯ ประมาณการว่า มีนักรบถึง 20,000 - 31,000 คน ได้ยึดครองอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลของอิรักและซีเรีย ทั้งยังตัดหัวประกันโชว์ในคลิปวีดีโอ และบังคับให้ชนกลุ่มน้อยเปลี่ยนมารับศาสนาอิสลามก็ตาม

ผู้สื่อข่าวชาวอเมริกันสองคน และชาวอังกฤษหนึ่งคนถูกสมาชิกกลุ่มติดอาวุธที่สวมโม่งปิดบังหน้าตา ตัดศีรษะโชว์ทางคลิปวีดีโอ จนกระตุ้นเกิดความสะอิดสะเอียน และเสียงประณามจากทั่วโลก
กลุ่มนักเคลื่อนไหวของกลุ่ม โคด พิงค์ ถือป้ายประท้วงการที่สหรัฐฯ ดำเนินปฏิบัติการทหารปราบปรามกลุ่มไอเอส ระหว่างที่ จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เข้ารับฟังการชี้แจงยุทธศาสตร์ที่สหรัฐฯ จะใช้ปราบกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม ต่อคณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของวุฒิสภาสหรัฐฯ
ภายหลังที่ โอบามาให้คำมั่นว่าจะทำลาย และทำให้กลุ่มไอเอสต้องพบจุดจบในที่สุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขายังคงยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ไม่มีแผนจะส่งทหารเข้าไปสู้รบ แต่ก็ย้ำว่า นักรบญิฮาดกลุ่มนี้จะต้องปราชัย

โอบามาเน้นย้ำว่า “กองกำลังอเมริกันที่ประจำการในอิรักไม่ได้ถูกส่งไปทำสงคราม และจะไม่มีทางเป็นเช่นนั้น”

ผู้นำสหรัฐฯ มีถ้อยแถลงเช่นนี้ ภายหลัง พล.อ.มาร์ติน เดมป์ซีย์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ชี้ว่า ที่ปรึกษาทางการทหารอาจให้คำแนะแก่กองกำลังของอิรักใน “การรบแบบประจัญบาน” ซึ่งจุดชนวนให้เกิดความกังวลในวอชิงตันว่า รูปแบบภารกิจอาจเลยเถิดไปไกลกว่าแผนการที่วางเอาไว้

โอบามากล่าวว่า “เราสามารถเข้าถึงศัตรูได้ในระยะไกล (ไอเอส) จะไม่มีที่หลบซ่อน เพราะเราจะหาเจออยู่ดี”

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาได้สั่งขยายขอบเขตการโจมตีกลุ่มไอเอสทางอากาศ ให้เข้าใกล้กรุงแบกแดดของอิรัก และกล่าวว่า สหรัฐฯ พร้อมแล้วที่เปิดฉากโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มติดอาวุธไอเอส ในซีเรีย

เขาเน้นย้ำอีกครั้งว่า การรวมกลุ่มของนานาชาติเพื่อปราบปรามนักรบญิฮาดกลุ่มนี้ โดยมีสหรัฐฯ เป็นหัวหอกนั้นมีลักษณะหลากหลาย และเขาระบุว่า ซาอุดีอาระเบียตกลงที่จะจัดหาสถานที่ให้สหรัฐฯ ใช้ฝึกฝนกลุ่มกบฏซีเรีย

แม้ว่าการรวมกลุ่มปราบไอเอสนั้นได้รับเสียงสนับสนุนจาก 40 ประเทศ แต่อิหร่านได้ส่งเสียงคัดค้านอย่างรุนแรง โดยประธานาธิบดี ฮัสซัน รูฮานี แห่งอิหร่าน ได้ออกมาวิจารณ์การที่วอชิงตันไม่ส่งกำลังทหารภาคพื้นเข้าไป
ชาวซีเรียในเมืองรากา ยืนมองซากอากาศยานของรัฐบาลซีเรีย ที่ถูกกลุ่มติดอาวุธ รัฐอิสลาม (ไอเอส) สอยร่วงลงมา
*** ส.ส.เทมติสนับสนุน ***

ที่วอชิงตัน บรรดาสมาชิกสภาสหรัฐฯ ได้ลงมติมอบอำนาจให้ฝึกฝน และติดอาวุธกบฏซีเรียที่ยึดมั่นในแนวทางสายกลางให้ลุกขึ้นสู้กลุ่มหัวรุนแรงอิสลามิสต์ ไอเอส ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่โอบามาชื่นชมว่า “เป็นย่างก้าวที่สำคัญ”

ส.ส. พากันลงมติสนับสนุนประธานาธิบดี แม้ว่าสมาชิกพรรคเดโมแครตผู้เบื่อหน่ายสงครามจะยังคลางแคลงสงสัยว่า การดำเนินการนี้อาจเปิดทางให้สหรัฐฯ เข้าแทรกแซงวิกฤตการณ์ในอิรักอย่างเต็มตัวในภายหลัง และทำให้บรรดาพรรคอนุรักษนิยมวิตกกังวลว่า แผนการนี้จะไม่เป็นไปตามที่คาดหวังเอาไว้

ในเวลานี้ ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวถูกส่งไปให้วุฒิสภาพิจารณา ขณะที่เหล่าผู้นำมั่นอกมั่นใจว่า จะผ่านการอนุมัติในวันนี้ (18) และสามารถส่งไปให้ประธานาธิบดีลงนามรับรองได้ในที่สุด

ปฏิบัติโจมตีทางอากาศที่ขยายวงกว้างกำลังบีบคั้นบรรดานักรบรัฐอิสลาม ที่ประกาศจัดตั้งการปกครองแบบ “กาหลิบอิสลาม” คร่อมพื้นที่ประเทศอิรักและซีเรีย ทั้งยังอ้างตนเป็นผู้นำนักรบญิฮาดทั่วโลกในการต่อต้านโลกตะวันตก

กองบัญชาการกลางสหรัฐฯ ระบุว่า กองทัพสหรัฐฯ ได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศในอิรัก 7 ครั้งเมื่อวันอังคาร (16) และวันพุธ (17) โดยใช้จู่โจมตีแบบผสมระหว่างเครื่องบินขับไล่ เครื่องบินโจมตี และอากาศยานควบคุมจากระยะไกล

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ดำเนินภารกิจโจมตีทางอากาศในอิรักไปแล้ว 174 ครั้ง แต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ สหรัฐฯ ได้ขยายขอบเขตภารกิจ ด้วยการรุกคืบจู่โจมกลุ่มไอเอสในน่านฟ้าแบกแดดเป็นครั้งแรก

บรรดานักวิเคราะห์ระบุว่า ในเวลาเดียวกันนี้ รัฐบาลชาติตะวันตกกำลังเผชิญกับการต่อสู้อันยากลำบาก ซึ่งก็คือการตัดท่อน้ำเลี้ยงกลุ่มนักรบญิฮาดรัฐอิสลาม ขณะที่กลุ่มหัวรุนแรงกลุ่มนี้หาเงินด้วยวิธีการขูดรีด การลักพาตัวเรียกค่าไถ่ การลอบน้ำมันและโบราณวัตถุในพื้นที่อันกว้างใหญ่ของซีเรียและอิรักที่ถูกยึดครองออกไปขาย
กองกำลังชาวเคิร์ดยืนประจำการ ณ จุดตรวจที่อยู่ห่างจากอาร์บิล เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานแห่งอิรัก ไปทางตะวันตก 40 กิโลเมตร เพื่อเฝ้าระวังการโจมตีจากกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม
กองกำลังชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ที่เข้าร่วมกับกองกำลังความมั่นคงของอิรักปราบปรามกลุ่มหัวรุนแรงติดอาวุธ รัฐอิสลาม (ไอเอส) ฝึกซ้อมภาคสนามที่เมืองนาจัฟ ของอิรัก
กำลังโหลดความคิดเห็น