เอเอฟพี - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ มีคำสั่งให้ส่งทหารอเมริกันอีก 350 นายไปคุ้มกันสถานทูตและเจ้าหน้าที่ในกรุงแบกแดด เมื่อวานนี้ (2 ก.ย.) เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) เผยแพร่คลิปวีดีโอการฆ่าตัดหัวผู้สื่อข่าวชาวอเมริกันอย่างโหดเหี้ยมเป็นรายที่สอง
สตีเฟน ซอตลอฟฟ์ เป็นตัวประกันชาวอเมริกันรายที่ 2 ที่ถูกกลุ่มไอเอสประหารในรอบ 2 สัปดาห์ โดยนักรบญิฮาดที่สังหาร ซอตลอฟฟ์ มีสำเนียงภาษาแบบชาวอังกฤษแท้ๆ เช่นเดียวกับคนที่ปรากฏตัวในคลิปวิดีโอฆ่าตัดศีรษะ เจมส์ โฟลีย์ ผู้สื่อข่าวสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม แม้แต่ฉากการสังหารก็ถูกจัดขึ้นกลางทะเลทราย และตัวประกันก็สวมชุดสีส้มคล้ายชุดนักโทษในฐานทัพเรือกวนตานาโมเหมือนกันอีกด้วย
กลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงนิกายสุหนี่ได้ประกาศตั้งรัฐอิสลามที่ปกครองโดย “ระบบคอลีฟะห์” ขึ้นในเขตอิทธิพลของพวกเขา หลังจากที่สามารถบุกยึดเมืองตอนเหนือของกรุงแบกแดด และลงมือขับไล่ชนกลุ่มน้อยชาวคริสต์และยาซิดีออกจากพื้นที่อย่างไร้ความปรานี
สหรัฐฯ ได้ส่งเครื่องบินเข้าไปปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อฐานที่มั่นของกลุ่มไอเอส และยังส่งทหารหลายร้อยนายไปคุ้มกันสถานทูตและบุคลากรของอเมริกาในอิรัก
“ประธานาธิบดีมีคำสั่งให้กระทรวงกลาโหมปฏิบัติตามคำร้องของกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการส่งทหารอีกประมาณ 350 นายไปปกป้องสถานทูตและเจ้าหน้าที่การทูตของเราในกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก” ถ้อยแถลงจากทำเนียบขาวระบุ
“สหรัฐฯ จะยังให้การสนับสนุนรัฐบาลอิรักปราบปรามกลุ่มติดอาวุธไอเอส ซึ่งไม่เพียงเป็นภัยคุกคามต่ออิรักเท่านั้น แต่ยังเป็นอันตรายร้ายแรงต่อตะวันออกกลาง รวมถึงบุคลากรและผลประโยชน์ของสหรัฐฯในภูมิภาคดังกล่าวด้วย”
ประธานาธิบดีโอบามาซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางเยือนเอสโตเนีย และจะเข้าร่วมการประชุมซัมมิตองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่แคว้นเวลส์ในสัปดาห์นี้ “จะได้ปรึกษาหารือกับพันธมิตรนาโตเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้กลุ่มไอเอสเพิ่มเติม และระดมความร่วมมือจากนานาชาติในการใช้ยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมปกป้องประชาชน และสนับสนุนหุ้นส่วนของเราในการต่อสู้กับนักรบไอเอส”
พล.ร.ต.จอห์น เคอร์บีย์ เลขาธิการฝ่ายสื่อมวลชนของเพนตากอน ชี้ว่า การส่งกำลังพลไปอิรักครั้งนี้ “เป็นการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ซึ่งถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจก่อนหน้าเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน และ 30 มิถุนายน ซึ่งจะทำให้สหรัฐฯ มีทหารคุ้มกันสถานทูตในอิรักอยู่ราวๆ 820 นาย”