กลุ่ม “รัฐอิสลาม” อ้างประหารทหารซีเรีย “หลายร้อย” หลังจับกุมได้ขณะหลบหนี

เอเอฟพี - กลุ่มนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) อ้างได้ประหารชีวิตทหารซีเรียที่พวกเขาจับกุมได้ “หลายร้อยคน” ระหว่างการบุกถล่มฐานทัพอากาศที่สำคัญทางตอนเหนือของซีเรียในสัปดาห์นี้ เหตุกระทำทารุณครั้งล่าสุดที่ส่งสัญญาณเตือนไปถึงชาติมหาอำนาจตะวันตกที่เกรงว่าพวกก่อการร้ายกลุ่มนี้จะแผ่ขยายไปทั่วโลก

นักรบญิฮาดกลุ่มนี้โอ้อวดบนทวิตเตอร์ว่า พวกเขาได้สังหารทหารที่พ่ายแพ้ 250 คน และโพสต์วิดีโอที่พวกเขาระบุว่าเป็นกองทหารรักษาการณ์ขณะหลบหนีแบบหัวซุกหัวซุน “ทหารซีเรีย 250 คนที่ถูกจับกุมโดยกองกำลังรัฐอิสลามจากเมืองตับกาในรักกาถูกประหารแล้ว” คำบรรยายที่โพสต์พร้อมกับวิดีโอระบุ

กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรียบอกว่า เหตุสังหารหมู่ล่าสุดนี้เกิดขึ้นระหว่างค่ำคืนในจังหวัดรากา พร้อมบอกว่าเหยื่อเหล่านั้นเป็นทหารที่กำลังหลบหนีไปทางตะวันตก หลังพวกนักรบญิฮัดบุกโจมตีฐานทัพอากาศของพวกเขาในตับกา

ส่วนรามี อับเดล เราะห์มาน หัวหน้า “กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย” (Syrian Observatory for Human Rights) ระบุว่า “ทหารซีเรียหลายสิบคนที่ถูกจับกุมขณะกำลังหลบหนี หลังจากลุ่มไอเอสบุกรุกฐานทัพอากาศตับกา และถูกนักรบญิฮาดกลุ่มนี้ประหารชีวิตในช่วงคืนวันนั้น”

นักรบญิฮาดกลุ่มดังกล่าวบุกยึดสนามบินแห่งนี้เมื่อวันอาทิตย์ (24) หลังการสู้รบอันดุเดือดกับกองกำลังผู้ภักดีต่อรัฐบาลเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ตรึงการควบคุมเหนือจังหวัดรักกา อันเป็นเมืองหลวงของอาณาจักร “คอลิฟะห์” ที่พวกเขาประกาศขึ้นมาเอง

อับเดล เราะห์มาน ระบุว่า กองทหารรักษาการณ์ที่พ่ายแพ้ประกอบด้วยทหาร 1,400 คน โดยในจำนวนนี้ 200 คนถูกสังหารและ 700 คนหลบหนีสำเร็จ ขณะที่อีก 500 คนยังอยู่ระหว่างการหลบหนี พวกเขาหลายสิบคนถูกจับตัวได้เมื่อคืนวันพุธ (27) ขณะกำลังพยายามที่จะข้ามทะเลทรายไปยังอาณาเขตที่ปกครองของรัฐบาลในแถบหุบเขาโอรอนเตสเพื่อไปทางตะวันตก

กลุ่มไอเอสโพสต์วิดีโอที่เผยให้เห็นกลุ่มชายสวมชุดชั้นในกำลังถูกบังคับให้เดินเท้าเปล่าผ่านถนนทะเลทรายแห่งหนึ่ง โดยมีกลุ่มติดอาวุธตะโกนว่า “รัฐอิสลาม” และ “ไม่มีทางถอยกลับ”

กลุ่มไอเอสควบคุมจังหวัดรักกาในซีเรียโดยสมบูรณ์ รวมถึงหลายพื้นที่ในจังหวัดดีร์ เอซซอร์ ที่อยู่ไกลออกไปทางหุบเขายูเฟรติสจวบจนถึงพรมแดนอิรัก

นอกจากนี้ กลุ่มไอเอสยังควบคุมพื้นที่สำคัญส่วนมากของอาหรับสายสุหนีในอิรักที่อยู่ใกล้เคียง, พื้นที่ทางตอนเหนือและตะวันตกของกรุงแบกแดด รวมถึงเมืองโมซูลที่ใหญ่เป็นอันดับสองในอิรัก

กลุ่มไอเอสโพสต์วิดีโอที่น่าสยดสยองเหล่านี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งเพื่อเตือนผู้ที่เข้าร่วมกับกองทัพซีเรียและเพื่อเป็นเครื่องมือชวนเชื่อสำหรับเกณฑ์อาสาสมัครจากโลกอิสลามที่ใหญ่กว่าแต่ก่อน