เอเอฟพี – นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษ ออกมาเรียกร้องในนาทีสุดท้ายให้ชาวสกอตแลนด์ปฏิเสธการแยกตัวจากสหราชอาณาจักรในการลงประชามติที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า โดยผลโพลล่าสุดชี้กระแสสนับสนุนและคัดค้านการแยกประเทศเริ่มสูสี ขณะที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ จะไม่ทรงแสดงความคิดเห็นใดๆ ในเรื่องนี้
คาเมรอน ได้เขียนบทความเผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์เดลีเมล์ว่า แผนประกาศเอกราชของสกอตแลนด์ไม่ต่างจากการ “กระโจนลงสู่ความมืดมิด”
“สหราชอาณาจักรคือประเทศที่มีคุณค่าและมีความพิเศษสุด และนั่นคือสิ่งที่กำลังจะถูกทำลายลงไป เพราะฉะนั้นขอให้พลเมืองในสกอตแลนด์ทุกคนจงเชื่อเถิดว่า เราปรารถนาให้ท่านอยู่กับเราต่อไป เราไม่ต้องการให้กลุ่มประเทศซึ่งเป็นดังครอบครัวเดียวกันนี้ต้องแตกสลาย”
“หากสหราชอาณาจักรแตกแยกไปแล้ว มันจะไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิมอีก ดังนั้นท่านมีทางเลือกชัดเจนอยู่แล้วว่า จะโหวต “ใช่” เพื่อกระโจนลงสู่ความมืดมิด หรือโหวต “ไม่” เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของสกอตแลนด์”
คาเมรอน ชี้ว่า การโหวต “ไม่” หมายถึงชาวสกอตแลนด์จะยังอยู่ในสหราชอาณาจักร โดยที่สภา “โฮลีรูด” จะมีอำนาจควบคุมการกู้ยืม เก็บภาษี และใช้จ่ายงบประมาณเพิ่มขึ้น
นายกฯเมืองผู้ดีกล่าวด้วยว่า เขาเห็นด้วยกับกรอบเวลาถ่ายโอนอำนาจซึ่ง 3 พรรคการเมืองใหญ่ที่สนับสนุนการรวมกลุ่มประเทศได้เสนอมา เพื่อตอบโต้กระแสเรียกร้องเอกราชที่รุนแรงขึ้นในสกอตแลนด์
พรรคอนุรักษ์นิยมของ คาเมรอน ไม่เป็นที่นิยมในสกอตแลนด์ โดยมีส.ส.เพียง 1 คนจากทั้งหมด 59 คนในสภา ซึ่งก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีอังกฤษพยายามที่จะไม่แสดงความเห็นใดๆ จนกระทั่งผลโพลล่าสุดบ่งชี้ว่า ชาวสกอตแลนด์ที่ต้องการเอกราชมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจนพอๆ กับผู้ที่ต้องการอยู่รวมกับสหราชอาณาจักร
ทั้งนี้ ยังมีกระแสข่าวด้วยว่า คาเมรอน อาจถูกพวกกบฏในพรรคตัวเองบีบให้สละตำแหน่งหัวหน้าพรรค หากไม่สามารถยื้อสกอตแลนด์ไว้ได้
ผลโพลหลายสำนักบ่งบอกตรงกันว่า กระแสสนับสนุนการรวมกลุ่มประเทศเริ่มแผ่วลงจากเมื่อเดือนก่อน ทำให้จำนวนผู้ที่จะโหวต “ใช่” และ “ไม่” เริ่มตีคู่สูสีกันเป็นครั้งแรก ส่งผลให้เงินปอนด์สเตอร์ลิงอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน ขณะที่ราคาหุ้นบริษัทที่เกี่ยวโยงกับสกอตแลนด์ก็ตกต่ำลงด้วย
สำนักพระราชวังอังกฤษออกถ้อยแถลงเมื่อวานนี้(9)ว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะไม่ทรงมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับการทำประชามติในสกอตแลนด์
ก่อนหน้านี้ สื่ออังกฤษรายงานว่า สมเด็จพระราชินีนาถทรงกังวลพระราชหฤทัยว่าสหราชอาณาจักรอาจจะต้องแตกแยกเป็นสอง ขณะที่ คาเมรอน เองก็ถูกกดดันให้ลองทูลขอการแทรกแซงจากองค์ประมุขแห่งรัฐ
“ความเป็นกลางขององค์พระประมุขตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ ถือเป็นหัวใจสำคัญของระบอบประชาธิปไตยที่เรายึดถือ และสมเด็จพระราชินีนาถก็ได้ทรงแสดงออกเช่นนั้นมาตลอดรัชกาล ดังนั้น พระองค์จึงทรงอยู่เหนือการเมือง และผู้ที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็มีหน้าที่จะต้องรับรองให้เป็นเช่นนั้น” โฆษกพระราชวังบักกิงแฮม แถลง
“การแสดงความคิดเห็นในทำนองว่า สมเด็จพระราชินีนาถจะทรงใช้อำนาจแทรกแซงผลประชามติ เป็นความคิดที่ผิดแน่นอน เพราะพระองค์ทรงเห็นว่านี่เป็นสิ่งที่ชาวสกอตแลนด์จะต้องตัดสินใจเอง”
นายกรัฐมนตรี อเล็ก แซลมอนด์ แห่งสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นแกนนำหลักในการรณรงค์เรียกร้องเอกราช ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้(9)ว่า ตนได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่พระตำหนักบัลมอรัลด์ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน
“ผมเชื่อว่า สมเด็จพระราชินีนาถซึ่งทรงผ่านเหตุการณ์สำคัญต่างๆ มากมายตลอดรัชสมัยของพระองค์ ทรงภาคภูมิพระทัยที่จะเป็นพระราชินีนาถของชาวสกอตแลนด์ และแน่นอนว่าเราเองก็ภูมิใจที่พระองค์ทรงเป็นประมุขแห่งดินแดนนี้”
รัฐบาลสกอตแลนด์ยืนยันว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะยังทรงมีฐานะเป็นประมุขรัฐต่อไปแม้สกอตแลนด์ได้รับเอกราชแล้ว เช่นเดียวกับที่ทรงเป็นประมุขแห่งออสเตรเลียและแคนาดา
สมเด็จพระราชินีนาถทรงมีความผูกพันกับสกอตแลนด์เป็นการส่วนพระองค์ ในช่วงฤดูร้อนของทุกๆปี พระองค์จะเสด็จฯ ไปประทับที่พระตำหนักบัลมอรัลด์ คฤหาสน์ที่รายล้อมไปด้วยผืนป่าและพื้นที่การเกษตรกว้างขวาง และเป็นสมบัติของราชวงศ์วินด์เซอร์มาหลายชั่วอายุคน