xs
xsm
sm
md
lg

“เจ้าชายจอร์จ” ทายาทองค์น้อยราชวงศ์อังกฤษ “เผยโฉม” อีกครั้ง ขณะเสด็จประพาสต่างแดนครั้งแรก!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เจ้าชายจอร์จ รัชทายาทองค์น้อยของราชวงศ์อังกฤษเสด็จถึงนิวซีแลนด์พร้อมเจ้าชายวิลเลียม ผู้เป็นพระบิดา และเจ้าหญิงเคตผู้เป็นพระมารดาวันนี้ (7 เม.ย.) ในการเสด็จประพาสอย่างเป็นทางการครั้งแรกของทายาทองค์น้อยวัย 8 เดือน ทว่าทรงพลาดโอกาสทอดพระเนตรการต้อนรับแบบชนเผ่าเมารี หลังทรงถูกพาเข้าไปในอาคารอย่างรวดเร็วเนื่องจากฟ้าฝนไม่เป็นใจ

สมาชิกราชวงศ์วินด์เซอร์ทั้งสามต้องเผชิญกับลมแรง สายฝน และอากาศขมุกขมัวในกรุงเวลลิงตัน ตั้งแต่วันแรกของการเสด็จประพาสนิวซีแลนด์ และออสเตรเลียเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิบัติพระกรณียกิจของเจ้าชายตั้งแต่พระบาทยังเล็กจิ๋วหลิว

เจ้าหญิงเคตซึ่งมีพระชนมายุ 32 ชันษา ทรงพยายามกุมฉลองพระองค์และพระมาลาทรงกลมไม่ให้ปลิวไปตามกระแสลมแรง ขณะที่ทรงใช้พระหัตถ์อีกข้างโอบอุ้มเจ้าชายจอร์จลงจากเครื่องบิน 757 ของกองทัพอากาศนิวซีแลนด์ เพื่อทรงปฏิสันถารกับ นายกรัฐมนตรี จอห์น คีย์ แห่งนิวซีแลนด์ที่มารอรับเสด็จด้านล่าง

เจ้าชายองค์น้อยผู้มีพระปรางยุ้ยทรงสวมพระสนับเพลาขาสั้น และฉลองพระองค์ไหมพรม ขณะที่เจ้าหญิงเคตทรงฉลองพระองค์ยาวสีแดงกลัดกระดุม ซึ่งออกแบบโดยแคทเธอรีน วอล์กเกอร์ พร้อมทั้งกลัดเข็มกลัดรูปใบเฟิร์นสีเงินซึ่งสมเด็จพระราชนีนาถอลิซาเบธที่ 2 ทรงได้รับเป็นของขวัญระหว่างเสด็จเยือนนิวซีแลนด์เมื่อปี 1953

ทางด้าน นายกรัฐมนตรีคีย์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ผมไม่คิดว่าความกระตือรือร้นในการประพาสนิวซีแลนด์จะลดลง เพราะทรงเปียกตั้งแต่ลงจากเครื่องบิน”

เจ้าชายวิลเลียมทรงปฏิสันถารตอบด้วยการหยิบใบไม้ไว้ในพระหัตถ์ ซึ่งเป็นการแสดงในเชิงสัญลักษณ์ว่าพระองค์ทรงเป็นสหาย ก่อนที่พระองค์และเจ้าหญิงเคตทรงปฏิสันถารแบบ “ฮองกี” ด้วยการนำพระนาสิกไปสัมผัสกับจมูกผู้เฒ่าชาวเมารี

เจ้าหญิงเคต ซึ่งไม่เคยเสด็จเยือนนิวซีแลนด์หรือออสเตรเลียมาก่อน ตรัสทักทายเหล่าทหารที่สวมชุดตามประเพณีแบบเปลือยบั้นท้าย และตรัสกับนักเต้นชาวเมารีว่า พิธีการต้อนรับตามแบบชนเผ่าเมารี “ยอดเยี่ยมมาก”

“ผมรู้สึกว่า พวกเราจะทำให้ชาวนิวซีแลนด์ทั้งประเทศประทับใจ... ผมหวังว่าเราจะมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม”

การเสด็จประพาสคราวนี้จะเป็นครั้งแรกที่ เจ้าชายจอร์จ รัชทายาทอันดับสามของราชบัลลังก์อังกฤษทรงปรากฏพระองค์ต่อหน้าสาธารณชน นับตั้งแต่ประสูติเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ปีผ่านมา

พระราชวังเคนซิงตันระบุว่า ตลอดการประพาสครั้งนี้ เจ้าชายองค์น้อยทรงมีกำหนดเสด็จเยือนเฉพาะบางที่เท่านั้น

เจ้าชายวิลเลียมทรงได้รับการต้อนรับตามประเพณีชนเผ่าเมารี จากเหล่าทหารที่มีลายสักน่าเกรงขามและสวมกระโปรงผ้าป่าน โบกหอกไม้ไปมา และโยนใบไม้ใส่พระบาทของเจ้าชาย พลางกู่ร้องสุดเสียง


เจ้าชายวิลเลียม รัชทายาทอันดับสองของราชบัลลังก์อังกฤษ ซึ่งในเวลานี้มีพระชนมายุ 31 ชันษา ทรงมีพระปรีชาสามารถในด้านนี้ และทรงมีโอกาสเสด็จประพาสทั้งสองประเทศมาแล้วหลายครั้งหลายครา

เมื่อเดือนมีนาคม และเมษายน ปี 1983 เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และเจ้าหญิงไดอานา ทรงพาเจ้าชายวิลเลียมร่วมเสด็จไปด้วย และเมื่อล่าสุดพระองค์ได้เสด็จประพาสสองประเทศเมื่อปี 2011 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่เหยื่อแผ่นดินไหวในเมืองไครสต์เชิร์ช ของนิวซีแลนด์ และผู้ประสบภัยน้ำท่วมในออสเตรเลีย

เมื่อ ดยุค และดัชเชสแห่งเคมบริดจ์เสด็จเยือนแคนาดาภายหลังทรงอภิเษกสมรสเมื่อปี 2011 ได้ไม่นานนัก โดยทั้งสองพระองค์ทรงได้รับการปฏิบัติเฉกเช่นคนในสังคมชั้นสูง และเมื่อปีที่แล้ว ทั้งสองได้เสด็จเยือนสิงคโปร์ มาเลเซีย หมู่เกาะโซโลมอน ตูวาลู แทนสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ในพระราชพิธีพัชราภิเษก วโรกาสที่พระองค์ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี

การเสด็จประพาสของทั้งสองพระองค์ดึงดูดความสนใจจากชาวนิวซีแลนด์เป็นอย่างมาก พร้อมทั้งจุดประกายให้เกิดคำถามมากมายนับตั้งแต่รถเข็นของเจ้าชายจอร์จได้ รับการติดตั้งอย่างถูกต้องหรือไม่ ไปจนถึงประเทศนี้ควรธำรงรักษาการปกครองโดยมีพระราชินีเป็นประมุขไว้หรือไม่

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อดีตรองนายกรัฐมนตรี ดอน แม็คคินนอน กล่าวว่าเป็นสิ่งที่ “หลีกเลี่ยงไม่ได้” หากนิวซีแลนด์จะเปลี่ยนการปกครองเป็นสาธารณรัฐ แม้ประชาชนจะยังให้ความเคารพราชวงศ์อังกฤษเป็นอย่างสูงก็ตาม

ส่วนนายกรัฐมนตรี จอห์น คีย์ แห่งนิวซีแลนด์กล่าวว่า เขาไม่เชื่อว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ พร้อมทั้งชี้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาชาวนิวซีแลนด์หันมาสนับสนุนการปกครองโดยมีพระราชินีเป็นประมุขกันอย่างจริงจังมากขึ้น

เขากล่าวกับสถานีวิทยุสาธารณะว่า “หากย้อนเวลากลับไปถามชาวนิวซีแลนด์เมื่อราวหนึ่งทศวรรษก่อนว่าอยากให้ ประเทศเป็นสาธารณรัฐหรือไม่ ตอนนั้นผมคิดว่าคงมีคนคัดค้านสัก 60 ต่อ 40 เปอร์เซ็นต์”

“แต่ถ้าคุณถามชาวนิวซีแลนด์วันนี้ ผมคิดว่าจะต้องมีคนคัดค้านมากถึง 80 ต่อ 20 เปอร์เซ็นต์”



กำลังโหลดความคิดเห็น