xs
xsm
sm
md
lg

UN เรียกร้อง รบ.ญี่ปุ่น “ยอมรับผิด” กรณี “สตรีเพื่อการผ่อนคลาย”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - หน่วยงานตรวจสอบขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้องเมื่อวานนี้ (29) ให้รัฐบาลญี่ปุ่นยอมรับผิดเรื่อง “สตรีเพื่อการผ่อนคลาย” (confort women) ซึ่งหมายถึงผู้หญิงท้องถิ่นในคาบสมุทรเกาหลีและชาติเอเชียอื่นๆ ซึ่งถูกเกณฑ์เป็นทาสบำเรอกามทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

คณะกรรมการสหประชาชาติว่าด้วยการกำจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ (UNCERD) แถลงว่า โตเกียว “ยื้อความทุกข์ทรมาน” ของสตรีสูงวัยเหล่านี้มานานหลายสิบปี ด้วยการไม่ยอมรับผิดและไม่ปฏิบัติต่อพวกเธออย่างเหมาะสม

“สิ่งที่เราอยากให้รัฐบาลญี่ปุ่นทำก็คือ สรุปผลการสอบสวนว่ากองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นได้ละเมิดสิทธิของสตรีเพื่อการผ่อนคลายจริงหรือไม่ ตลอดจนนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ และมีมาตรการยุติปัญหาเหล่านี้อย่างครอบคลุมและยั่งยืน” อนาสตาเซีย คริกลีย์ รองประธานคณะกรรมการ UNCERD ระบุ

“รัฐบาลญี่ปุ่นควรแถลงขออภัยอย่างจริงใจ และมอบเงินชดเชยต่อสตรีเพื่อการผ่อนคลายที่ยังมีชีวิตอยู่และครอบครัวของพวกเธออย่างเพียงพอ... นอกจากนี้ ยังจำเป็นที่จะต้องไม่ยินยอมให้ผู้ใดปฏิเสธเรื่องเหล่านี้” เธอกล่าว พร้อมเสริมว่า ปัจจุบันญี่ปุ่นยังไม่มีกฎหมายห้ามเผยแพร่ถ้อยคำเหยียดเชื้อชาติ

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา UNCERD ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสิทธิมนุษยชน 18 คน ได้ประกาศจะทบทวนว่าญี่ปุ่นเคารพข้อตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยการต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติมากน้อยเพียงใด ซึ่งสมาชิกยูเอ็นทุกๆ ประเทศที่ร่วมลงนามข้อตกลงฉบับนี้ก็จะต้องถูกประเมินอยู่เป็นระยะเช่นกัน

นาวี พิลเลย์ ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติซึ่งจะหมดวาระลงในวันจันทร์นี้(1) ได้พยายามเรียกร้องมาแล้วหลายรอบให้ญี่ปุ่นยอมรับผิด และแก้ไขปมพิพาทเรื่องทาสบำเรอกามในยุคสงคราม

สตรีเอเชียราว 200,000 คนเคยถูกบังคับให้ทำงานในซ่องโสเภณีของกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น โดยส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลี แต่ก็มีสตรีจากจีน ไต้หวัน อินโดนีเซีย และชาติอื่นๆ ตกเป็นเหยื่อด้วยเช่นกัน

สตรีส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการชดเชยที่เหมาะสมต่อความทุกข์ทรมานที่พวกเธอได้รับ แม้จะมีความพยายามเรียกร้องจากญี่ปุ่นมาแล้วหลายครั้งตั้งแต่สงครามสิ้นสุดลง และเวลานี้จำนวนสตรีเพื่อการผ่อนคลายที่ยังมีชีวิตอยู่ก็เหลือน้อยลงเรื่อยๆ

ญี่ปุ่นเคยออกแถลงการณ์ขออภัยครั้งประวัติศาสตร์ในปี 1993 ขณะที่สังคมญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็ยอมรับว่า รัฐบาลทหารในยุคสงครามคือ “จำเลย” ตัวจริงในเรื่องนี้

โตเกียวเคยตั้งกองทุนชดเชยขึ้นในปี 1994 ซึ่งมีการจ่ายเงินแก่สตรีเพื่อการผ่อนคลายหลายร้อยคน ทว่า สตรีบางรายไม่ยอมรับเนื่องจากเงินส่วนใหญ่มาจากการบริจาคของเอกชน ไม่ได้มาจากรัฐบาลญี่ปุ่น

ถึงขั้นนี้แล้ว ยังมีนักการเมืองฝ่ายขวาของญี่ปุ่นบางคน รวมถึงนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ที่พยายามตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องสตรีเพื่อการผ่อนคลาย โดยอ้างว่าผู้หญิงที่ทำงานในซ่องทหารเมื่อยุคสงครามนั้นน่าจะเป็น “โสเภณีอาชีพ” มากกว่า

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศทบทวนคำแถลงขออภัยของอดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โยเฮอิ โคโนะ เมื่อปี 1993 ซึ่งแม้ผลจะออกมาว่าไม่มีการยกเลิกคำขออภัยดังกล่าว แต่โตเกียวก็อ้างว่าสิ่งที่สตรีเพื่อการผ่อนคลายเหล่านั้นอ้าง “ไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด” ซึ่งการกล่าวเช่นนี้ได้เรียกเสียงประณามอย่างรุนแรงจากหลายประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น