เอเอฟพี - ประธานาธิบดี ลี เมียงบัค แห่งเกาหลีใต้ แถลงวันนี้ (13) ว่า เหตุที่เดินทางเยือนหมู่เกาะพิพาทเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็เพื่อกดดันให้โตเกียวแก้ไขข้อบาดหมาง ตั้งแต่เมื่อครั้งเข้ายึดครองคาบสมุทรเกาหลี
การเยือนหมู่เกาะพิพาทในทะเลญี่ปุ่นเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (10) ของลี สร้างความโกรธเคืองแก่รัฐบาลญี่ปุ่นเป็นอย่างยิ่ง จนมีการเรียกทูตญี่ปุ่นกลับจากกรุงโซลทันที
ทริปดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีของเกาหลีใต้เดินทางไปถึงหมู่เกาะภูเขาไฟ ซึ่งมีชื่อว่า “ด๊กโด” ในภาษาเกาหลี และ “ทาเกชิมะ” ในภาษาญี่ปุ่น ขณะที่นายกรัฐมนตรี โยชิฮิโกะ โนดะ แห่งแดนปลาดิบก็ออกมาประณามการกระทำของผู้นำเกาหลีใต้ว่าเป็นเรื่อง “น่าตำหนิอย่างยิ่ง”
ลี กล่าวหาว่า ญี่ปุ่นเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องของเกาหลีใต้ และไม่ยอมชดเชยความผิดที่ก่อไว้สมัยที่เข้าไปยึดครองคาบสมุทรเกาหลีในช่วงปี 1910-1945 รวมถึงเรื่องที่สตรีเกาหลีถูกบังคับให้เป็นทาสบำเรอกามแก่ทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ลี เผยด้วยว่า ระหว่างที่เดินทางไปประชุมสุดยอดผู้นำร่วมกับ โนดะ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ตนได้หารือปัญหาดังกล่าวกับผู้นำญี่ปุ่นเป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง
“มหาอำนาจอย่างญี่ปุ่นสามารถแก้ไขปัญหาเช่นนี้ได้แน่นอนหากตัดสินใจที่จะทำ แต่ที่ผ่านมา พวกเขากลับยังเพิกเฉยด้วยเหตุผลด้านการเมืองภายในประเทศ ดังนั้น ผมจึงรู้สึกว่าเกาหลีใต้ต้องแสดงออก (ถึงความไม่พอใจ) ด้วยการกระทำ”
“ญี่ปุ่นไม่ได้มีอิทธิพลต่อประชาคมโลกดังเช่นที่เคยเป็น” ประธานาธิบดีเกาหลีใต้กล่าวระหว่างรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับผู้นำรัฐสภา โดยโฆษกหญิงประจำตัวประธานาธิบดีออกมายืนยันคำพูดดังกล่าว
แม้ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้จะมีสายสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิด และต่างมีความวิตกเกี่ยวกับปัญหานิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือเช่นเดียวกัน ทว่าปมขัดแย้งทางประวัติศาสตร์กลับทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไม่ราบรื่นเท่าที่ควร