เอเอฟพี - สหรัฐอเมริกาออกมาเตือนว่าการสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครนกำลังมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น หลังจากที่ทางยูเครนประกาศว่าได้จับกุมพลร่มของรัสเซียไว้ได้ 10 คน ก่อนที่จะมีการประชุมครั้งสำคัญของผู้นำทั้งสองฝ่ายในวันนี้ (26 ส.ค.)
ซูซาน ไรซ์ ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ระบุในข้อความที่ส่งทางทวิตเตอร์เมื่อคืนวันจันทร์ (25 ส.ค.) ว่าการที่รัสเซียทำการรุกรานยูเครนครั้งแล้วครั้งเล่านั้น เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ ถือว่าเป็นอันตรายและสร้างความเจ็บช้ำให้กับยูเครน
ไรซ์ กล่าวหาว่ากองทัพรัสเซียได้รุกรานยูเครนด้วยการใช้ปืนใหญ่ ระบบต่อต้านอากาศยาน รถถังและกำลังทหาร ซึ่งทั้งหมดนั้นแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของการสู้รบระหว่างทั้งสองฝ่าย
"รัสเซียไม่มีสิทธิ์ส่งยานพาหนะหรือสิ่งของใดๆ เข้าไปในยูเครนโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลยูเครน" เธอกล่าว
การแสดงความเห็นของเธอในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่หน่วยงานด้านความมั่นคงของยูเครนระบุว่า สามารถจับกุมทหารจากกองพลส่งกำลังทางอากาศที่ 98 ซึ่งตั้งอยู่แถวภาคกลางของรัสเซีย ได้ในบริเวณใกล้ๆ กับหมู่บ้าน ดเซอร์คัลเน ห่างจากโดเนตสก์ เมืองศูนย์กลางของพวกกบฏออกมาทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 50 กิโลเมตร
"เจ้าหน้าที่สอบสวนได้เริ่มทำการสอบสวนคดีอาญาแล้ว สำหรับการข้ามพรมแดนแบบผิดกฏหมายของชาวรัสเซียที่พกพาอาวุธเหล่านี้" คำแถลงของหน่วยงานความมั่นคงยูเครนระบุ
โดยในวันนี้ (26 ส.ค.) สื่อของยูเครนได้ออกอากาศภาพวีดีโอที่ระบุว่าเป็นทหารรัสเซียที่โดนจับตัวเอาไว้ ได้สารภาพถึงการฝ่าข้ามชายแดนเข้ายูเครนด้วยยานลำเลียงพลหุ้มเกราะ
นายทหารรายหนึ่งในวีดีโอระบุว่าตนเองคือ สิบโทอิวาน มิลชาคอฟ จากกองพลร่มที่ 331 ซึ่งอยู่ในภาคกลางของรัสเซีย เขาได้อธิบายว่า พวกเขาเดินทางมาเป็นขบวน โดยที่ไม่ใช้เส้นทางตามถนน แต่แล่นผ่านท้องทุ่งมาโดยที่ไม่ทันรู้ตัวว่าได้ข้ามชายแดนแล้ว
ขณะที่สื่อของรัสเซียได้อ้างคำพูดของแหล่งข่าวจากกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ที่ระบุว่า การฝ่าข้ามชายแดนของบรรดาทหารรัสเซียจนถูกจับได้นั้นเป็นเพียง "อุบัติเหตุ" โดยนายทหารเหล่านั้นกำลังอยู่ระหว่างตรวจตราพื้นที่บริเวณแนวชายแดนรัสเซีย-ยูเครน แล้วเผลอข้ามไปแบบไม่ตั้งใจในบริเวณที่ไม่มีป้ายเตือน
ทางด้าน วาเลรีย์ เกเลตีย์ รัฐมนตรีกลาโหมยูเครน ระบุว่า ทหารเหล่านี้ถูกควบคุมตัวเอาไว้ได้เมื่อวันจันทร์ (25 ส.ค.)
"วันนี้กองทัพยูเครนจับทหารรัสเซียได้หลายคน" เกเลตีย์ เขียนไว้บนเฟซบุ้คของเขา
เกเลตีย์ ระบุว่า ทางการรัสเซียบอกว่าทหารเหล่านี้กำลังซ้อมรบอยู่ในหลายพื้นที่ของรัสเซีย แต่ในความเป็นจริงนั้น พวกเขามีส่วนร่วมกับปฏิบัติการทางทหารเพื่อรุกรานยูเครน
"ผมขอกล่าวถึงบรรดาญาติของทหารรัสเซีย จงมองหาดูในตอนนี้เลยว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน แล้วรีบพาพวกเขาออกไปจากยูเครน ก่อนที่คนเหล่านั้นจะต้องตาย" เขากล่าว
ยูเครนได้กล่าวหารัสเซียมานานแล้ว ว่าเป็นผู้สนับสนุนบรรดากบฏแบ่งแยกดินแดนในภาคตะวันออกของยูเครน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ทางการยูเครนออกมาระบุว่า ได้ตัวทหารรัสเซียมาเป็นเชลยศึก
ด้านรัสเซียที่ปฏิเสธมาโดยตลอดถึงความเกี่ยวข้องกับพวกกบฏในยูเครน ก็ได้ระบุว่า หลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ล้วนถูกเสกสรรปั้นแต่งขึ้นมาทั้งนั้น
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (25 ส.ค.) โฆษกกองทัพยูเครน "อังดรีย์ ลีเชนโก" ได้ระบุว่า ทหารยูเครนได้ทำการสู้รบเพื่อหยุดยั้งขบวนรถถังและยานลำเลียงพลหุ้มเกราะที่ชูธงฝ่ายกบฏ ซึ่งข้ามชายแดนมาจากฝั่งรัสเซียและมุ่งหน้าไปยังเมืองท่า "มาริวโปล" ที่อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลยูเครน
ส่วนนักข่าวเอเอฟพีก็รายงานว่าพบเห็นเหตุการณ์สู้รบกันอย่างหนักทางตอนใต้ของโดเนตสก์ โดยมีเสียงระเบิดดังกึกก้อง พร้อมด้วยกลุ่มควันลอยฟุ้งขึ้นมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ฝ่ายกบฏเคยระบุว่าได้รับรถถังและปืนใหญ่มาใหม่
ด้านกองทัพยูเครนระบุว่า ทหารเสียชีวิตไป 4 รายและได้รับบาดเจ็บอีก 31 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จากการสู้รบกับขบวนรถถังในพื้นที่ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย "เซียร์เกย์ ลาฟรอฟ" ได้ปฏิเสธเรื่องพวกนี้ โดยระบุว่า มีการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการรุกรานดังกล่าว พร้อมทั้งเหน็บแนมสื่อตะวันตก ว่าจะต้องตีข่าวเรื่องนี้กันอย่างสนุกสนานในวันรุ่งขึ้นแน่นอน
ยุบสภาขจัดหอกข้างแคร่
อีกด้านหนึ่ง ประธานาธิบดียูเครน "เปโตร โปโรเชนโก" ก็ได้ตัดสินใจยุบสภา และให้จัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด ทั้งนี้ เขาได้กล่าวหาสมาชิกบางรายของ "เวอร์คอฟนา ราดา" (รัฐสภายูเครน) ชุดนี้ ว่ามีส่วนให้การสนับสนุนพวกกบฏที่อยู่ในภาคตะวันออก ดินแดนที่มีคนตายไปแล้วกว่า 2,200 ราย จากการสู้รบตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา
"การเลือกตั้งรัฐสภาใหม่โดยเร็วเป็นส่วนหนึ่งของแผนการสู่สันติภาพของผม" ผู้นำยูเครนกล่าว
โปโรเชนโก ระบุว่า สมาชิกของรัฐสภายูเครน ชุดที่ถูกยุบนี้ ประกอบด้วยพวกที่ให้การสนับสนุน "ยานูโควิช" ประธานาธิบดียูเครนคนก่อนหน้าเขาที่ได้รับการหนุนหลังจากรัสเซีย โดยมีการผ่านร่างกฏหมายที่มีลักษณะเป็นเผด็จการออกมาในขณะนั้น
ปูติน-โปโรเชนโก เผชิญหน้ากันในที่ประชุม
ในวันนี้ (26 ส.ค.) โปโรเชนโก มีกำหนดที่จะเข้าร่วมการประชุมที่กรุงมินสก์ เมืองหลวงของเบลารุส โดยมี "วลาดิมีร์ ปูติน" ประธานาธิบดีรัสเซีย พร้อมด้วยผู้นำชาติสมาชิกสหภาพศุลกากรที่นำโดยรัสเซีย (สหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย) และบรรดาเจ้าหน้าที่อาวุโสจากสหภาพยุโรป อาทิ ผู้กำหนดนโยบายระหว่างประเทศ "แคทเธอรีน แอชตัน" เข้าร่วมประชุมด้วย
แม้ว่าทางรัสเซียจะไม่ได้ปฏิเสธถึงความเป็นไปได้ที่จะปูตินกับโปโรเชนโกจะนัดพูดคุยกันโดยตรง แต่ก็ไม่ยืนยันว่าการพูดคุยแบบทวิภาคีจะเกิดขึ้นเช่นกัน โดยก่อนหน้านี้ทั้งคู่เคยพบกันมาแล้วที่ฝรั่งเศส ในงานฉลองครบรอบ 70 ปี ของวัน "ดีเดย์" เมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
การประชุมที่กรุงมินสก์ในวันนี้ (26 ส.ค.) ตามกำหนดการจะพูดคุยกันในประเด็นเรื่องวิกฤติทางการค้าที่เกิดขึ้น หลังจากยูเครนได้เซ็นสัญญาข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางการค้ากับสหภาพยุโรปในเดือนมิถุนายน