เอเอฟพี - รัฐบาลออสเตรเลียวันนี้ (26 ส.ค.) ประกาศทุ่มงบ 64 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 1.9 พันล้านบาท) เพื่อป้องกันคนหนุ่มสาวจากการปลูกฝังแนวคิดหัวรุนแรง และขัดขวางไม่ให้พวกเขาเข้าร่วมกลุ่มหัวรุนแรงในภูมิภาคตะวันออกกลาง
รัฐบาลออสซีประกาศทุ่มงบประมาณมหาศาลเช่นนี้ ภายหลังในเดือนนี้ เดวิด เออร์ไวน์ ผู้อำนวยการใหญ่องค์การข่าวกรองเพื่อความมั่นคงแห่งออสเตรเลีย เตือนว่าสงครามนองเลือดในอิรักและซีเรียกำลังหล่อหลอมคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดหัวรุนแรง
นายกรัฐมนตรีโทนี แอบบอตต์ แถลงว่า มีชาวออสซีถึงราว 60 คนกำลังต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับกลุ่มนักรบญิฮาด “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ขณะที่อีก 100 คนคอยสนับสนุนขบวนการเคลื่อนไหวกลุ่มนี้อยู่ภายในประเทศออสเตรเลีย
แอบบอตต์ชี้ว่า “ภาพถ่ายเมื่อเร็วๆ นี้ที่เผยให้เห็นการเข่นฆ่าเหยื่ออย่างโหดเหี้ยมอำมหิตในซีเรีย และพลเมืองออสเตรเลียปรากฎตัวในหมู่นักรบต่างชาติ สะท้อนให้เห็นว่า จะต้องมีการลงมือต่อต้านการปลูกฝังแนวความคิดหัวรุนแรง” พร้อมทั้งกล่าวเสริมว่า ไอเอสกำลังใช้ “อนารยธรรมในยุคกลางร่วมกับเทคโนโลยีในสมัยใหม่”
“นั่นแสดงให้เห็นถึงความร้ายแรง และอันตรายของขบวนการนี้ เนื่องจากมีชาวออสเตรเลียเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ สิ่งที่ควรจะเป็นปัญหาของดินแดนห่างไกล จึงกลับกลายเป็นปัญหาของเราด้วย”
แอบบอตต์ชี้แจงว่า จะใช้เงิน 64 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียสนับสนุนองค์กรต่างๆ ในชุมชน และหน่วยงานความมั่นคง โดยมุ่งเน้นภารกิจป้องกันการปลูกฝังค่านิยมหัวรุนแรง และลดภัยคุกคามจากลัทธิก่อการร้ายภายในประเทศ
นายกรัฐมนตรีได้ยกตัวอย่างแนวทางในการใช้เงินลงทุน อันได้แก่ การจัดกิจกรรมสำหรับคนหนุ่มคนสาว การให้คำปรึกษา และการส่งเสริมการจ้างงาน
นอกจากนี้ เงินก้อนนี้ยังจะถูกนำไปใช้ก่อตั้งกลุ่มประสานงานระหว่างหน่วยงานเพื่อสืบสวน ดำเนินคดี และขัดขวางนักรบต่างชาติ ตลอดจนบรรดาผู้สนับสนุน
แอบบอตต์กล่าวว่า รัฐบาลมีกำลังใจเมื่อเหล่าผู้นำศาสนาอิสลามในแดนจิงโจ้ต่างสนับสนุนการรับมือกับปัญหานี้กันอย่างแข็งขัน
เขากล่าวว่า “ผมเน้นย้ำกับพวกเขาในฐานะนายกรัฐมนตรีว่า รัฐบาลไม่ได้ดำเนินมาตรการต่อต้านชุมชนหรือศาสนาใดโดยตรงเป็นพิเศษ แต่รัฐบาลกำลังใช้มาตรการต่อต้านขบวนการก่อการร้าย และผู้ที่อาจกกลายเป็นสมาชิกองค์กรก่อการร้ายในอนาคต”
ทั้งนี้ เงินก้อนนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณก้อนใหญ่กว่ามูลค่า 630 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 1.87 หมื่นล้านบาท) ที่รัฐบาลออสซี่ประกาศทุ่มให้หน่วยงานด้านความมั่นคง และข่าวกรองใช้ยกระดับมาตรการต่อต้านลัทธิก่อการร้าย
แดนจิงโจ้ประกาศทุ่มงบมหาศาลเช่นนี้ในเวลาที่ ผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยหนังสือพิมพ์ออสเตรเลียฉบับวันนี้ (26) ชี้ว่า แผนการกวาดล้างกลุ่มนักรบญิฮาดที่เดินทางกลับออสเตรเลีย หลังไปร่วมรบในประเทศต่างๆ อย่าง อิรัก และซีเรีย ที่รัฐบาลเสนอนั้นได้รับเสียงสนับสนุนอย่างล้นหลาม
ผลสำรวจดังกล่าวชี้ว่า ร้อยละ 77 ของผู้ตอบแบบสอบถาม 1,207 คน จะลงมติเห็นชอบกับกฎหมายใหม่ฉบับนี้ที่กำหนดให้ผู้ที่เดินทางไปยังประเทศที่เกิดสงครามนองเลือดพิสูจน์ว่า พวกเขาไม่ได้ติดต่อกับกลุ่มก่อการร้าย
กฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายซึ่งยังไม่เสร็จสิ้นฉบับนี้ กำหนดให้การเดินทางไปยังประเทศที่อยู่ในลิสต์ของบรรดาหน่วยข่าวกรอง โดยไม่มีเหตุผลอันชอบด้วยกฎหมายเป็นความผิด
ทั้งนี้ ออสเตรเลียคือหนึ่งในหลายประเทศที่พบว่า มีพลเมืองของตนเดินทางไปร่วมรบในสงคราม ในช่วงที่รัฐบาลทั่วโลกกำลังได้รับแรงกดดันหนักขึ้นเรื่อยๆ ให้ยกระดับมาตรการป้องกันการปลูกฝังแนวคิดของลัทธิหัวรุนแรงให้แก่หนุ่มสาวชาวมุสลิม