สหรัฐฯ หนุนใช้ “ระบอบสหพันธรัฐ” แก้ปัญหาความขัดแย้งในอิรัก

เอเอฟพี - สหรัฐฯ สนับสนุนให้อิรักใช้ระบบการปกครองแบบ “สหพันธรัฐ” เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งระหว่างกลุ่มต่างๆ ท่ามกลางภัยคุกคามจากลัทธิก่อการร้าย รองประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ แถลงเมื่อวานนี้ (22 ส.ค.)

จากบทความเชิงแสดงความคิดเห็นที่เขียนลงหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ไบเดนชี้ว่า สหรัฐฯ พร้อมที่จะ “ยกระดับความช่วยเหลือ” ต่ออิรักในการกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) และจะเรียกร้องให้พันธมิตรนานาชาติร่วมสนับสนุนด้วย

ไบเดน เตือนว่า ความแตกแยกระหว่างพลเมือง และการขาดความไว้เนื้อเชื่อใจในทางการเมืองได้ “บั่นทอนศักยภาพ” ของกองกำลังความมั่นคงอิรัก และเสริมความแข็งแกร่งให้แก่กลุ่มติดอาวุธอย่างไอเอส ซึ่งยึดพื้นที่ตอนเหนือของอิรักและภาคตะวันออกของซีเรียเป็นบริเวณกว้าง

เขาชี้ว่า “ระบบสหพันธรัฐ” เป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาความแตกแยกในอิรักได้ ซึ่ง ไบเดน ได้แสดงท่าทีสนับสนุนแผนแบ่งดินแดนอิรักออกเป็นเขตกึ่งปกครองตนเอง 3 ส่วนสำหรับชาวมุสลิมชีอะห์ ชาวมุสลิมสุหนี่ และชาวเคิร์ดมานานแล้ว

การแบ่งเขตปกครองในลักษณะนี้ “จะช่วยให้การแบ่งปันรายได้ของจังหวัดต่างๆ เป็นไปอย่างยุติธรรม และยังสามารถจัดตั้งโครงสร้างด้านความมั่นคงที่มีรากฐานในท้องถิ่น เช่น กองกำลังเนชันแนลการ์ด เพื่อปกป้องประชาชนในเมืองต่างๆ ขจัดช่องว่างที่กลุ่มไอเอสจะแทรกแซง แต่ขณะเดียวกันก็ยังสามารถรักษาบูรณภาพของดินแดนอิรักเอาไว้ได้” ไบเดนกล่าว

“สหรัฐฯ พร้อมที่จะช่วยฝึกฝน หรือให้การสนับสนุนรูปแบบอื่นๆ ภายใต้ข้อตกลงกรอบทางยุทธศาสตร์ (Strategic Framework Agreement) เพื่อให้แนวทางดังกล่าวสำเร็จเป็นรูปธรรมขึ้นมาได้”

นอกจากนี้ ไบเดนยังขอร้องให้ทุกภาคส่วนในอิรัก “ประนีประนอมต่อกันอย่างจริงจัง”

“เราคงหวังไม่ได้มากไปกว่าชาวอิรักเอง... หากอิรักทำไม่ได้ การแทรกแซงจากภายนอกก็คงไม่มีประโยชน์ใดๆ”

แม้สหรัฐฯ จะส่งเครื่องบินเข้าไปโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มไอเอสเพื่อช่วยหนุนหลังกองกำลังเคิร์ดและกองกำลังความมั่นคงอิรัก แต่ไบเดนยืนยันว่าภัยคุกคามเหล่านี้ “สามารถขจัดได้ด้วยกองกำลังท้องถิ่น โดยที่สหรัฐฯไม่จำเป็นต้องส่งทหารอเมริกันภาคพื้นดินเข้าไป”

ไบเดนซึ่งกล่าวเตือนถึง “ปัญหาท้าทายในระยะยาว” ได้เน้นย้ำต่อไปว่า “ด้วยความช่วยเหลือจากอเมริกาและนานาชาติ นี่เป็นสงครามที่อิรักสามารถเอาชนะได้ และต้องทำให้ได้ด้วย”

รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยอมรับว่า “ภัยคุกคามจากกลุ่มติดอาวุธไอเอสไม่ได้จำกัดอยู่ภายในอิรักเท่านั้น” และเรียกร้องให้ชาติมหาอำนาจในภูมิภาค รวมถึงกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ช่วยกันกวาดล้างกองกำลังญิฮาดกลุ่มนี้ และสกัดกั้นไม่ให้นักรบต่างชาติหลั่งไหลเข้าสู่สมรภูมิอีก