เอเจนซีส์ - นักรบญิฮัดกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) โพสต์คลิปวิดีโอฆ่าตัดคอนักข่าวอเมริกันซึ่งถูกจับตัวไปในซีเรียตั้งแต่ปลายปี 2012 และขู่สังหารนักข่าวอีกรายที่ถูกพวกเขาควบคุมตัวอยู่ เว้นแต่วอชิงตันยอมยุติการโจมตีทางอากาศในอิรัก คาดกันว่าเหตุการณ์นี้จะทำให้ปฏิบัติการดังกล่าวของสหรัฐฯ ยิ่งมีความยุ่งยากซับซ้อนมากขึ้น
คลิปดังกล่าวแสดงให้เห็นภาพนักรบไอเอสสวมชุดดำคลุมหน้ามิดชิดคนหนึ่ง ตัดคอชายคนหนึ่งที่รูปร่างหน้าตาเหมือนกับ เจมส์ โฟลีย์ นักข่าวที่หายตัวไปตั้งแต่ถูกจับในซีเรียเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2012
ในคลิปที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (19 ส.ค.) ยังมีภาพสตีเวน ซอตลอฟฟ์ นักข่าวอเมริกันอีกคนที่ถูกจับและยังมีชีวิตอยู่ พร้อมคำเตือนว่า ชะตากรรมของซอตลอฟฟ์ขึ้นอยู่กับคำสั่งของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ให้กองทัพอากาศสหรัฐฯ ยุติการโจมตีกลุ่มไอเอสในอิรัก
ต่อมา ไดแอน แม่ของโฟลีย์ ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า เธอภูมิใจในตัวบุตรชายที่อุทิศชีวิตเพื่อเปิดเผยให้โลกรับรู้ความทุกข์ยากของชาวซีเรีย พร้อมกันนี้ ไดแอนยังวิงวอนให้ผู้ลักพาตัวไว้ชีวิตเชลยที่เหลือ ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ และไม่มีอำนาจควบคุมใดๆ ต่อนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ ในอิรัก ซีเรีย หรือที่อื่นใดในโลก เช่นเดียวกับโฟลีย์
ทางด้านทำเนียบขาวแจ้งว่า หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ กำลังตรวจสอบคลิปดังกล่าว และว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้รับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับเรื่องนี้ ระหว่างบินจากวอชิงตันกลับไปพักผ่อนต่อที่เกาะมาร์ธา วินยาร์ด และประธานาธิบดีอาจออกคำแถลงเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ในวันพุธ (20)
สำหรับ เคทลิน เฮย์เดน โฆษกหญิงสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวและญาติมิตรของโฟลีย์ ขณะที่เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศและกลาโหมอเมริกันติดต่อขอให้เว็บไซต์ต่างๆ ลบคลิปดังกล่าว
โฟลีย์นั้นเป็นนักข่าวมากประสบการณ์ ที่ลงพื้นที่รายงานสถานการณ์การสู้รบมาแล้วหลายสมรภูมิ เขาเคยถูกจับในลิเบียนาน 6 สัปดาห์พร้อมนักข่าวอีกหลายคนในข้อหาเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย หลังจากนั้นเขาเดินทางต่อไปยังซีเรียเพื่อติดตามการปฏิวัติต่อต้านระบอบของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด โดยส่งข่าวและภาพให้แก่เว็บไซต์ข่าว โกลบัลโพสต์, สำนักข่าวเอเอฟพี และช่องทางสื่ออื่นๆ
ฟิลิป บัลโบนี ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโกลบัลโพสต์ กล่าวขอบคุณต่อข้อความแสดงความเห็นใจและให้กำลังใจที่หลั่งไหลเข้ามานับจากคลิปสังหารโฟลีย์ถูกเผยแพร่
เอ็มมานูเอล ฮุก ประธานกรรมการเอเอฟพี แสดงความชื่นชมในคามเป็นผู้สื่อข่าวที่กล้าหาญ เป็นตัวของตัวเอง และซื่อตรงเป็นกลางของโฟลีย์
จากคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ โฟลีย์ถูกจับในจังหวัดอิดลิบ ทางเหนือของซีเรีย เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2012
ส่วนซอตลอฟฟ์ ที่ถูกจับในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ทำข่าวให้หนังสือพิมพ์และนิตยสารอเมริกันหลายฉบับ อาทิ ไทม์, ฟอเรนจ์ โพลิซี และ คริสเตียน ไซเอนซ์ มอนิเตอร์
ทั้งนี้ ในคลิปความยาวเกือบ 5 นาทีที่ใช้ชื่อว่า “สาส์นถึงอเมริกา” นั้น กลุ่มไอเอสประกาศว่า โฟลีย์ถูกสังหารหลังจากโอบามาสั่งโจมตีทางอากาศต่อบรรดาที่มั่นของไอเอสทางเหนือของอิรัก
การสังหารเกิดขึ้นในทะเลทรายที่ไม่มีสิ่งใดบ่งชี้ว่า อยู่ในอิรักหรือซีเรีย โดยฝีมือนักรบที่พูดภาษาอังกฤษสำเนียงอังกฤษ ขณะที่โฟลีย์คุกเข่าอยู่บนพื้น สวมชุดสีส้มเหมือนชุดนักโทษในฐานทัพเรือกวนตานาโมของอเมริกา
"ความก้าวร้าวต่อรัฐอิสลามถือเป็นความก้าวร้าวต่อชาวมุสลิมทั้งหมดที่ยอมรับคอลีฟะห์อิสลามเป็นผู้นำ” มือสังหารประกาศ
เหตุการณ์นี้ถือเป็นครั้งแรกที่ไอเอสสังหารพลเมืองอเมริกัน นับแต่วิกฤตซีเรียระเบิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2011 และยังมีแนวโน้มทำให้การเข้าแทรกแซงในอิรักของอเมริกาซับซ้อนยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับความพยายามของคณะรัฐบาลโอบามาในการกำราบกลุ่มไอเอสที่กำลังรุกช่วงชิงพื้นที่มากมายทั้งในอิรักและซีเรีย
เจ้าหน้าที่อาวุโสอเมริกันหลายคนที่รับรู้สถานการณ์โดยตรงเปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ไอเอสขู่สังหารโฟลีย์เพื่อแก้แค้นการโจมตีทางอากาศของอเมริกาในอิรักที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 8 ที่ผ่านมา
ไอเอสที่เกิดจากการรวมตัวของชาวสุหนี่ที่ต่อต้านทั้งอเมริกาและรัฐบาลชีอะห์ในอิรัก รวมทั้งเป็นกบฏทำการต่อต้านรัฐบาลในซีเรียอย่างแข็งขันด้วยนั้น สามารถดึงดูดความศรัทธาของผู้คนจำนวนไม่น้อยจากทั่วโลกให้เข้าร่วมการต่อสู้ของกลุ่มนี้
ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ไอเอสสามารถยึดพื้นที่กว้างขวางทางตะวันออกของซีเรียและทางเหนือกับทางตะวันตกของอิรัก ซึ่งรวมถึงเมืองโมซุล และเวลานี้กำลังมุ่งหน้าเข้ายึด “เคอร์ดิสถาน” ดินแดนปกครองตนเองของชาวเคิร์ด ตลอดจนกรุงแบกแดด เมืองหลวงของอิรัก
ต้นเดือนนี้ โอบามาจึงเปิดไฟเขียวให้กองทัพสหรัฐฯเข้าโจมตีทางอากาศต่อที่มั่นและยานพาหนะของไอเอสที่คุกคามผลประโยชน์ของอเมริกัน ในเมืองอาร์บิล ซึ่งเป็นเมืองเอกของเคอร์ดิสถาน รวมทั้งสกัดไม่ให้นักรบญิฮัดกลุ่มนี้สังหารผู้อพยพซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยที่นับถือศาสนาและนิกายต่างๆ
การสนับสนุนของอเมริกาช่วยให้กองกำลังเคิร์ดและอิรักสามารถยึดเขื่อนโมซุลคืนมาได้ และถือเป็นชัยชนะสำคัญนับจากไอเอสสถาปนาตัวเองเป็นผู้นำของอิสลามทั่วโลก