เอเอฟพี - กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยวานนี้ (18 ส.ค.) ว่าในช่วง 3 วันที่ผ่านมา เครื่องบินรบของกองทัพสหรัฐฯ ได้จู่โจมกลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่ “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ทางอากาศไปทั้งสิ้น 35 ครั้ง โดยโจมตีถูกเป้าหมายมากกว่า 90 จุด
การจู่โจมระลอกนี้นับเป็นการโจมตีฐานของกลุ่มนักรบไอเอส ทางอากาศครั้งรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่สหรัฐฯ เปิดฉากปฏิบัติการต่อต้านกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม เป็นต้นมา
พล.ร.ต.จอห์น เคอร์บีย์ โฆษกเพนตากอนระบุว่า สหรัฐฯ ได้ส่งอากาศยานไร้นักบิน เครื่องบินขับไล่ เครื่องบินทิ้งระเบิด และเครื่องบินโจมตีถล่มฐานของนักรบอิสลามิสต์ไอเอส ในช่วงที่กลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้สู้รบแย่งชิงเขื่อนขนาดใหญ่ทางตอนเหนือของอิรัก
เขาระบุเพิ่มเติมในคำแถลงว่า “เราได้ทำลายเป้าหมายกว่า 90 จุด รวมถึงยานพาหนะ เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ และหลุมเพลาะ”
“กองกำลังอิรักสามารถชิงเขื่อนกลับคืนมาได้ และกำลังเดินหน้าขยายขอบเขตการควบคุมในพื้นที่”
ก่อนหน้านี้ กองบัญชาการกลางสหรัฐฯ (เซ็นเตอร์คอม) ชี้ว่า ในวันจันทร์ (18) เพียงวันเดียว เครื่องบินรบ และอากาศยานไร้นักบินของสหรัฐฯ ได้ดำเนินภารกิจโจมตีทางอากาศไป 15 ครั้ง
เซ็นเตอร์คอมเสริมว่า เครื่องบินขับไล่ เครื่องบินทิ้งระเบิด และอากาศยานไร้คนขับได้ทำลายฐานของกลุ่มรัฐอิสลาม 9 แห่ง และยานพาหนะ 8 คันโดยรอบเขื่อนโมซุล ซึ่งเป็นจุดที่กลุ่มติดอาวุธแบ่งแยกดินแดนกลุ่มนี้ต่อสู้กับกองกำลังชาวเคิร์ด
เคอร์บีย์ ระบุว่า ชัค เฮเกล รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้แถลงว่า กองกำลังสหรัฐฯ พร้อมที่จะเดินหน้าปฏิบัติภารกิจเช่นนี้ต่อไป
โฆษกผู้นี้กล่าวเสริมว่า “นอกจากนี้ รัฐมนตรีเฮเกลยังได้แนะนำวิธีการที่กองกำลังอิรักจะใช้ดำเนินปฏิบัติการนี้ร่วมกับสหรัฐฯ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าอิรักมีความตั้งมั่นที่จะโจมตีตอบโต้กลุ่มติดอาวุธมากขึ้นเรื่อยๆ ”
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กองทัพสหรัฐฯ ได้เปิดฉากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในพื้นที่ตอนเหนือของอิรัก เพื่อปกป้องชนกลุ่มน้อยชาวยาซิดีที่กำลังหนีการไล่ล่าของกลุ่มรัฐอิสลาม ตลอดจนบุคลากร และโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯ
การโจมตีครั้งนี้ ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มไอเอสรุกคืบเข้าสู่อาร์บิล ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานแห่งอิรักอีกด้วย
โอบามาได้กล่าวยกย่องการที่กองกำลังชาวเคิร์ดสามารถยึดคืนเขื่อนขนาดใหญ่ นอกเมืองโมซุลมาจากกลุ่มไอเอสได้สำเร็จ แต่ก็เตือนแบกแดดว่า “หมาป่ามารออยู่หน้าประตูแล้ว” พร้อมทั้งกระตุ้นให้อิรักต้องเร่งจัดตั้งรัฐบาลเอกภาพ เพื่อสร้างสันติภาพในประเทศโดยเร็ว
โอบามาระบุว่า “ปฏิบัติการครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า กองกำลังอิรักและกองกำลังชาวเคิร์ดสามารถทำงานร่วมกันได้ และสามารถต่อกรกับกลุ่ม ISIL (รัฐอิสลาม) ได้”
เขาให้สัญญาว่า “หากเรายังทำเช่นนี้ต่อไป พวกเขาก็จะได้รับความช่วยเหลืออย่างเข้มแข็งจากสหรัฐอเมริกา” โดยถ้อยแถลงของเขาได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศที่ดำเนินมานาน 10 วันจะไม่สิ้นสุดลงในเร็ววันนี้
การโจมตีวานนี้ (18) ได้สร้างความเสียหายให้แก่อาวุธยุทโธปกรณ์ของกลุ่มไอเอสมากมาย ได้แก่ ฐานสู้รบ 9 แห่ง จุดตรวจ 1 จุด รถถังติดอาวุธ 6 คัน ยานหุ้มเกราะ 1 คัน ปืนต่อสู้อากาศยานเคลื่อนที่ 1 กระบอก กับระเบิด และระเบิดแสงเครื่อง
เซนเตอร์คอมระบุว่า ได้ดำเนินภารกิจโจมตีซึ่งได้รับมอบอำนาจจากประธานาธิบดี โอบามา เพื่อสนับสนุนกองกำลังอิรัก และกองกำลังเคิร์ด ในการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธไอเอส และปกป้องบุคลากร ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของสหรัฐฯ